Skip to content Skip to footer

ทำการตลาดออนไลน์ให้น่าสนใจด้วยเทคนิค Social Listening

การตลาดออนไลน์

ทำการตลาดออนไลน์ให้น่าสนใจด้วยเทคนิค Social Listening

สถิติในปี 2023 แสดงให้เห็นว่าผู้คนทั่วโลกใช้งานโซเชียลมีเดีย (Social Media) ไปกว่า 4.95 ล้านล้านคน โอกาสนี้เจ้าของธุรกิจหลาย ๆ แบรนด์จึงเริ่มหันมาทำการตลาดทางออนไลน์ผ่านโซเชียลมีเดียกันมากขึ้น เนื่องจากเป็นวิธีที่เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายที่สุด

แต่ก่อนจะไปถึงขั้นนั้น เจ้าของแบรนด์ต้องวางแผนกลยุทธ์การตลาดออนไลน์เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก และพัฒนาคอนเทนต์ของแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักเสียก่อน โดยหนึ่งในเทคนิคที่นิยมนำมาปรับใช้กับแบรนด์หลาย ๆ เจ้าก็คือการทำการตลาดออนไลน์แบบ Social Listening ซึ่งช่วยให้เจ้าของแบรนด์เข้าใจความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น

วันนี้ คอมม่อน กราวด์ ขอพาทุกคนไปทำความรู้จักข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการทำการตลาดออนไลน์ด้วยเทคนิค Social Listening ว่าคืออะไร มีประโยชน์ต่อเจ้าของแบรนด์อย่างไรบ้าง และวิธีการใช้งาน Social Listening ให้ได้ผลสำเร็จสูงสุด ตามไปอ่านพร้อมกันได้เลย

ไขข้อสงสัย Social Listening คืออะไร?

Social Listening คือ การฟังเสียงของผู้บริโภคบนสื่อสังคมออนไลน์ ผ่านการใช้งานเครื่องมือเฉพาะที่ช่วยให้เจ้าของแบรนด์ หรือนักทำการตลาดออนไลน์รู้ว่า ผู้บริโภคในโลกโซเชียลกำลังกล่าวถึงแบรนด์ว่าอย่างไรบ้าง โดยข้อมูลของเหล่าผู้บริโภคที่ได้จะถูกนำมาวิเคราะห์ต่อยอดในเชิงลึก เพื่อให้แบรนด์ได้ผลิตคอนเทนต์ หรือหาโอกาสทางการตลาดในการเข้าไปนั่งใจผู้บริโภคได้มากขึ้น รวมไปถึงโอกาสในการพัฒนาแบรนด์ต่อไปในอนาคต

ทั้งนี้ Social Listening จะมีความแตกต่างจาก Social Monitoring ในรูปแบบของการทำงาน โดยหลักการทำงานของ Social Listening คือการมองภาพรวมทั้งหมดของแบรนด์ ในขณะที่ Social Monitoring จะทำงานด้วยการเก็บรวบรวมข้อมูลในสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว โดยอาจกล่าวได้ว่า Social Monitoring เป็นส่วนหนึ่งของการทำ Social Listening เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์ และวางแผนกลยุทธ์การตลาดทางออนไลน์ต่อไป

ทำความเข้าใจ Social Listening กับประโยชน์ที่มีต่อธุรกิจ

ท่ามกลางกระแสโซเชียลของผู้บริโภคที่เปลี่ยนเทรนด์แทบจะวิต่อวิ การนำเทคนิค Social Listening มาใช้ร่วมกับการวางกลยุทธ์ทางการตลาดออนไลน์ จะช่วยให้แบรนด์สามารถนำข้อมูลที่วิเคราะห์ได้มาพัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือคอนเทนต์ให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้มากขึ้น ยกตัวอย่างประโยชน์ที่ Social Listening สามารถช่วยธุรกิจให้ก้าวไปข้างหน้าได้ เช่น

  • สร้างการรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์ (Brand Awareness)

สิ่งที่กลุ่มผู้บริโภคพูดถึงเกี่ยวกับแบรนด์ ไม่ว่าจะผ่าน Mention, Hashtag, Comment หรือการกล่าวถึงแบรนด์ในรูปแบบอื่น ๆ เช่น การสนทนาต่าง ๆ ล้วนเป็นข้อมูลเชิงลึก ที่สามารถนำมาวิเคราะห์ ปรับเปลี่ยนแนวทางในการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์ให้เป็นไปตามที่คาดว่าผู้บริโภคจะให้ความสนใจได้

  • ส่งต่อภาพลักษณ์ที่ดีของแบรนด์

คำแนะนำติชมจากผู้บริโภค ถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ธุรกิจสามารถพัฒนาต่อยอดตรงตามใจผู้บริโภคได้มากที่สุด และเป็นการเปิดโอกาสให้แบรนด์ได้นำไปปรับกลยุทธ์การทำแคมเปญต่าง ๆ เพื่อเพิ่มช่องทางตอบข้อสงสัยของผู้บริโภคเกี่ยวกับแบรนด์ และให้ข้อมูลมีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งส่วนนี้จะถือเป็นการช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจในอีกแง่มุมหนึ่ง

  • เปิดโอกาสให้ศึกษาคู่แข่งของแบรนด์

การเลือกใช้เครื่องมือทำ Social Listening จะช่วยให้เจ้าของธุรกิจมองเห็นภาพรวมแบรนด์ตัวเองได้ชัดเจนมากขึ้น รวมไปถึงยังเปิดโอกาสให้ได้ศึกษาคู่แข่งทางการตลาดของแบรนด์อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น แนวโน้มที่กลุ่มผู้บริโภคกำลังพูดถึงแบรนด์คู่แข่งแบบเรียลไทม์ การเคลื่อนไหวหรือกลยุทธ์ทางการตลาดที่กำลังซุ่มพัฒนา สิ่งเหล่านี้จะเป็นข้อมูลเชิงลึกที่ช่วยให้เจ้าของแบรนด์ปรับปรุงธุรกิจของตัวเองให้เท่าทันกระแสโลกมากขึ้น

การทำ Social Listening ให้ไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้

หลักการทำ Social Listening ตามขั้นตอนที่ถูกต้องเหมาะสม จะช่วยผลักดันให้แบรนด์ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง ทำให้เห็นผลของการวางกลยุทธ์ด้านการตลาดออนไลน์อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น ช่วยให้เจ้าของธุรกิจเห็นภาพรวมแบรนด์ตัวเองว่า กำลังอยู่จุดไหนท่ามกลางแบรนด์คู่แข่งอีกมากมาย โดยขั้นตอนก่อนการเริ่มต้นทำ Social Listening ให้ได้ผล มีดังนี้

  • กำหนด KPIs

สิ่งแรกที่แบรนด์ต้องทำ คือ การกำหนด KPIs (Key Performance Indicators) เพื่อตั้งเป้าหมายให้แก่ธุรกิจ โดยต้องเป็นการวัดผลที่เฉพาะเจาะจง และทำให้เห็นผลจริงอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งการตั้งค่า KPIs จะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ปัจจุบันของธุรกิจด้วย

  • วิเคราะห์คู่แข่ง

ใช้เครื่องมือในการทำ Social Listening เพื่อวิเคราะห์คู่แข่ง เพื่อขยายฐานลูกค้า และสร้างมูลค่าในตลาด ซึ่งนับว่าเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยพัฒนาแบรนด์ได้เป็นอย่างดี

  • วางแผนกลยุทธ์สร้างคอนเทนต์

เมื่อวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกแล้ว สิ่งต่อมา คือ การวางแผนกลยุทธ์ในการสร้างแคมเปญ หรือคอนเทนต์ต่าง ๆ ให้กับแบรนด์เป็นที่รู้จักของกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น โดยใช้เครื่องมือในการทำ Social Listening มาวัดผลว่าคอนเทนต์แบบไหนที่ผู้บริโภคมีส่วนร่วมมากหรือน้อย เพื่อปรับปรุงการทำคอนเทนต์ให้เข้าที่มากขึ้น

  • เลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสม

ทุกวันนี้มีการปล่อยเครื่องมือสำหรับทำ Social Listening ออกมาให้เจ้าของธุรกิจได้ใช้งานกันมากมาย โดยเครื่องมือแต่ละตัวจะมีการใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนั้น เจ้าของแบรนด์ก็ต้องเลือกเครื่องมือให้เหมาะสมกับการทำงาน เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจน และเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจมากที่สุด

  • วิเคราะห์และวัดผลตาม KPIs

หลังจากวางแผนปรับกลยุทธ์ทางการตลาดตามที่ตั้งเป้า KPIs ไว้ สุดท้ายแล้วก็อย่าลืมวัดผลว่า ทั้งหมดที่ทำมานั้นเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้แต่แรกหรือไม่ วิเคราะห์จุดอ่อน และจุดแข็ง รวมไปถึงเนื้อหาคอนเทนต์ว่าเข้าถึงผู้บริโภคได้มากน้อยแค่ไหน เพื่อนำไปปรับปรุงธุรกิจให้เป็นที่ 1 ของตลาดในอนาคต

อย่างไรก็ดี การทำการตลาดออนไลน์ด้วยเทคนิคแบบ Social Listening ยังคงต้องอาศัยทักษะ และความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ซึ่งทาง คอมม่อน กราวด์ เอเจนซี มีทีมงานมากฝีมือในการช่วยผลักดันธุรกิจ และปรับกลยุทธ์ทางการตลาดออนไลน์ให้กับเจ้าของแบรนด์ เพื่อไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ สำหรับใครที่สนใจใช้บริการสามารถปรึกษา และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ตามช่องทางต่อไปนี้

Tel: 081-426-6695

Email: [email protected]

Facebook Page: Common Ground 

Hello,

We are Common Ground.

Go To Top