9 ธุรกิจที่เหมาะกับการทำ SEO ให้เว็บไซต์เป็นที่รู้จัก
สำหรับวันนี้ คอมม่อน กราวด์ จะพามาดูว่าธุรกิจแบบใดเหมาะที่จะทำ SEO หรือ Search Engine Optimization เพื่อดันให้เว็บไซต์เป็นที่รู้จัก โดยจะมีธุรกิจประเภทใด และ Search Engine Optimization จะช่วยได้มากน้อยขนาดไหน ก็ตามเรามารับชมกันได้เลย
เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน
ธุรกิจแบบไหน เหมาะกับการทำ SEO
ไม่ว่าโลก หรือเทคโนโลยี จะเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยขนาดไหน แต่การค้นหาสินค้า หรือบริการบนโลกออนไลน์ ก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แถมยังมีความสำคัญมากยิ่งขึ้นด้วย
เพราะแพลตฟอร์มออนไลน์ อย่าง Google เป็นแพลตฟอร์มที่มีความน่าเชื่อถือ และสามารถค้นหาข้อมูล สินค้า หรือบริการได้ตามที่ต้องการ ดังนั้น SEO ถือเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดออนไลน์ที่ตอบโจทย์ และเหมาะสมกับความต้องการของคุณ
เนื่องจากผลลัพธ์ที่ยั่งยืน และช่วยทำให้ธุรกิจมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น โดยธุรกิจที่เหมาะสมสำหรับ SEO สามารถทำได้ ทั้งธุรกิจ B2C, B2B และ B2B2C เช่น
- ธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าอุปโภค และบริโภค
- ธุรกิจโรงแรม และที่พักต่าง ๆ
- ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
- ธุรกิจขายอุปกรณ์ไอที และอิเล็กทรอนิกส์
- ธุรกิจร้านเสริมสวยต่าง ๆ อาทิ สปา ร้านทำผม คลินิกเสริมความงาม
- ธุรกิจร้านอาหาร
- การศึกษา สถานพยาบาลต่าง ๆ
- ธุรกิจเกี่ยวกับยานยนต์
- ธุรกิจอื่น ๆ ที่ต้องการโปรโมตสินค้า และบริการให้เป็นที่รู้จัก
สำหรับ SEO นั้นทำได้ทุกธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจขนาดเล็ก หรือขนาดใหญ่ เป็นธุรกิจที่พึ่งก่อตั้ง หรือก่อตั้งมานานแล้วสามารถทำได้ เพียงแค่คุณตั้งเป้าหมายไว้ว่าอยากให้เว็บไซต์เป็นที่รู้จัก มีจำนวนผู้เข้าชมเพิ่มมากขึ้น อยากสร้างการรับรู้ให้ธุรกิจ รวมทั้งสร้างยอดขายให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ก็สามารถใช้กลยุทธ์ SEO เพื่อช่วยผลักดันเว็บไซต์ธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้
ประโยชน์ของกลยุทธ์ SEO ที่มีต่อธุรกิจ
เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ
เมื่อเว็บไซต์ติดอันดับในหน้าแรกของการค้นหา หรือติดอันดับที่ 1 นั่นก็จะแสดงให้เห็นว่าเว็บไซต์ของคุณมีคุณภาพ และมีความน่าเชื่อถือ จนทำให้ Google จัดอันดับให้เว็บไซต์ของคุณอยู่ในอันดับต้น ๆ ของการค้นหา
ประหยัดค่าใช้จ่าย
สำหรับ SEO จะไม่มีค่าใช้จ่ายเหมือนกับการยิงแอด Ads โฆษณา แต่เป็นการปรับปรุงคุณภาพจากภายใน และภายนอก เพื่อให้ถูกจัดอันดับในหน้าแรกของการค้นหา แต่ SEO ต้องแลกมาด้วยเวลาในการปรับปรุงเว็บไซต์ เพื่อให้ติดอันดับ
ช่วยให้ธุรกิจ หรือแบรนด์เป็นที่จดจำ
เพราะ SEO จำเป็นต้องเลือกใช้ Keyword ที่มีความเกี่ยวข้องกับผู้ค้นหา ดังนั้น หากคุณเลือก Keyword ที่สร้างสรรค์ และตรงกับความต้องการ ก็จะช่วยให้ธุรกิจเป็นที่น่าจดจำมากยิ่งขึ้น
ช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น
เนื่องจาก SEO มีการสร้าง Content หรือเนื้อหาที่มีความน่าสนใจ เพื่อดันให้เว็บไซต์ติดอันดับ และเมื่อเว็บไซต์ติดอันดับแล้ว ทำให้กลุ่มเป้าหมายเห็นเว็บไซต์ได้มากขึ้น ช่วยดึงดูดให้กลุ่มเป้าหมายที่ต้องการค้นหาสินค้า หรือข้อมูลที่เป็นประโยชน์เข้ามาใช้เวลาในเว็บไซต์ของเราได้มากขึ้น
ช่วยโปรโมตธุรกิจได้ตลอดเวลา
เมื่อใดที่เว็บไซต์ของคุณติดอันดับต้น ๆ ของการค้นหาบน Google แล้ว นั่นก็จะหมายความว่าคุณมีโอกาสได้โปรโมตเว็บไซต์ธุรกิจของคุณตลอด 24 ชั่วโมง จนกว่าเว็บไซต์ของคุณจะถูกแทนที่ด้วยเว็บไซต์อื่น
กลยุทธ์ SEO 4 ประเภท แตกต่างกันอย่างไร
SEO (Search Engine Optimization) คือ การเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเว็บไซต์ เพื่อเพิ่มการมองเห็น และการเข้าถึงเว็บไซต์ บนเครื่องมือค้นหา Search Engine อย่าง Google เพื่อเพิ่มโอกาสให้หน้าเว็บไซต์ของคุณติดอันดับ ในหน้าแรกของการค้นหาง่ายขึ้น
โดยกลยุทธ์ SEO แบ่งเป็นทั้งหมด 4 ประเภทด้วยกัน คือ Technical SEO, On-page SEO, Off-page SEO และการสร้าง Content หรือเนื้อหาบนเว็บไซต์ ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีหน้าที่ และความแตกต่างกัน ดังนี้
Technical SEO
กลยุทธ์ที่เน้นการพัฒนา ปรับปรุงโครงสร้างเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การปรับปรุงด้านความเร็วในการโหลดเว็บไซต์ การปรับให้เว็บไซต์เป็น Mobile Friendly หรือการจัดวางโครงสร้างเนื้อหาเพื่อให้ง่ายต่อการ Index ข้อมูลของ Google
On-page SEO
การปรับปรุงเว็บไซต์จากภายใน เพื่อให้เว็บเพจแต่ละหน้าถูกต้องตามหลัก SEO มากที่สุด โดยเน้นไปที่การเพิ่ม Title Tag, Meta Description, Meta Slug หรือ ALT Text ให้มีความชัดเจน และตรงกับ Keyword ที่เลือก เพื่อให้เว็บแต่ละหน้ามีโอกาสติดอันดับในหน้าแรกของการค้นหาบนอย่างยั่งยืน
Off-page SEO
กระบวนการปรับปรุงเว็บไซต์จากภายนอก ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยส่งเสริมทำให้เว็บไซต์มีคะแนน และมีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น โดยการปรับปรุงเว็บไซต์จากภายนอก จะเป็นการทำ Backlink ซึ่งสามารถทำ Backlink ได้ด้วยตัวเอง
หรือเป็น Backlink ที่คนอื่นทำให้ เพื่อให้ลิงก์ส่งกลับมายังเว็บไซต์ ทำให้คะแนนเว็บไซต์เพิ่มขึ้น และน่าเชื่อถือมากขึ้น จนทำให้ Google จัดอันดับให้เว็บไซต์ของคุณอยู่ในอันดับที่ 1 หรือหน้าแรกของการค้นหา
Content หรือสร้างสรรค์เนื้อหาบนเว็บไซต์
สำหรับการทำ Content เป็นกลยุทธ์ที่ไม่ควรมองข้าม เพราะการสร้างสรรค์เนื้อหาช่วยทำให้เว็บไซต์ มีโอกาสติดอันดับการค้นหาได้ โดยเนื้อหาต้องสร้างสรรค์ และเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน มี Keyword ที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ ที่สำคัญ ต้องไม่ Copy จากที่อื่น เพราะทำให้ Google มองว่าเว็บไซต์ของคุณมีคุณภาพ และจัดอันดับเว็บไซต์ให้คุณได้
อ่านเพิ่มเติม : กลยุทธ์ SEO เหมาะสมกับธุรกิจ Start Up หรือไม่ ?
ซึ่ง SEO นั้นสามารถทำได้ด้วยตัวเอง และให้ผู้เชี่ยวชาญอย่าง Common Ground เป็นผู้ดูแลรับทำ SEO ให้กับคุณได้ เพราะเราเป็นเอเจนซีที่มีประสบการณ์ด้านการทำ SEO และการตลาดออนไลน์มานานกว่า 6 ปี เราพร้อมทำเว็บไซต์ของคุณให้มีคุณภาพ และมีประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน หากสนใจพร้อมให้เราดูแลสามารถติดต่อเพื่อสอบถาม หรือปรึกษาเพิ่มเติมได้ที่
Tel.081-426-6695
Email: [email protected]
Facebook Page: Common Ground