Neuromarketing ตอนที่ 1: การตลาดดิจิตอลต้องคุยกับสมองส่วนไหนของมนุษย์?

Neuromarketing ตอนที่ 1: การตลาดดิจิตอลต้องคุยกับสมองส่วนไหนของมนุษย์?

หลายครั้งที่เราจะพูดว่าต้องให้ลูกค้าจำได้ แต่ก่อนจะจำเขาต้องสนใจและเห็นเราบ่อยๆก่อน ยุคดิจิตอลที่ลูกค้ามีทุกสิ่งอย่างให้เลือกดู เลือกอ่าน ทุกสรรพสิ่งวิ่งเข้าหาลูกค้าอย่างล้นหลาม ทำยังไงดีจะกระตุ้นให้เขาหยุดดูเราบ่อยๆ ก่อนที่จะจำเราได้

มีหลายคนบอกว่าต้องพยายามที่จะพูดในสิ่งที่ลูกค้าต้องการแล้วมันคือแบบไหนที่เขาต้องการหล่ะ? ต้องเขียนแคปชั่นสั้น แต่สั้นแบบไหนที่จะโดนใจให้หยุดดู เอาแค่ง่ายๆพฤติกรรมคนเล่น Facebook ก่อน เขาหยุดดูบางโพสต์เพราะอะไร? และปล่อยผ่านเพราะอะไร? วันนึงสไลด์มือถือทั้งวันต่อ Feed หนึ่งหน้าคือไม่เกิน 2 วินาที นั้นแปลว่าไม่โดนใจก็ไม่หยุดดู

วันนี้เลยจะมาเล่าให้ฟังเรื่องของสมองกับการเรียกความสนใจ อะไรทำให้สนใจได้เร็ว พูดแบบไหนดี?
เริ่มที่เข้าการทำงานของสมองเบื้องต้นก่อนหล่ะกัน!

สมองส่วนไหน ทำงานยังไง?

ตามหลักการ Neuromarketing หรือการพยายามทำความเข้าใจสมองกับการทำการตลาด โดย Neuromarketing เป็นการศึกษาปฏิกิริยาของสมองกับสิ่งเร้าต่างๆทางการตลาด โดยมีการพูดว่าสมองเราแบ่งออกเป็น 3 ส่วน นั้นคือ Neocortex, Midbrain และ Reptilian Brain โดยสมอง 3 ส่วนนี้มีการทำงานแตกต่างกันซึ่งสร้างความแตกต่างในการตัดสินใจหรือสนใจต่อสิ่งเร้าต่างๆที่แตกต่างกัน

สมองส่วนที่1: Neocortex คือสมองส่วนที่ใช้ตรรกะในการสร้างเหตุผลต่างๆของมนุษย์ ซึ่งทำให้มนุษย์สร้างเหตุผลที่แตกต่างในการพูด ทำ เรียน พูดง่ายๆก็คือใช้เหตุผลตัดสินใจนั้นแหละ สมองส่วนนี้เคยได้รับความสนใจอย่างมากในการตลาด เพราะเราเชื่อว่าคนเลือกซื้อด้วยเหตุผล แต่สมองส่วนนี้ทานด้วยยาก เพราะว่า เหตุผลมันซับซ้อน และทำให้เกิดการเพิ่มระยะเวลาในการตัดสินใจซื้อ ยิ่งคนใช้เหตุผลในการตัดสินใจซื้อเท่าไร ยิ่งยากในการขายเท่านั้น

สมองส่วนที่2: Midbrain คือสมองส่วนที่ใช้อารมณ์ความรู้สึกในการสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่นและสิ่งรอบตัว สมองส่วนนี้จะใช้จดจำเพราะความรู้สึกทำให้จดจำได้ดี ในทางการตลาดเราจะชอบพูดเสมอว่าต้องสร้างอารมณ์สร้างความรู้สึกให้กับลูกค้าเพื่อให้เขาจดจำและมีอารมณ์ร่วม สมองส่วนนี้ทำงานหากมีสิ่งเร้ามากระตุ้นอารมณ์ ความยากมันคือแต่ละคนอารมณ์ไม่เท่ากัน และชอบสิ่งเร้าทางอารมณ์ที่แตกต่างกัน แต่จะเห็นว่าสื่อมากมายค่อนข้างเข้าใจตรงนี้ และใช้อารมณ์เข้าร่วมในการขาย เพราะสุดท้ายคนมักตัดสินสิ่งต่างๆด้วยอารมณ์มากกว่าเหตุผล

สมองส่วนที่3: Reptilian Brain คือสมองส่วนที่ใช้สัญชาตญานเอาตัวรอด เพราะฉะนั้นมันจะเกิดปฏิกริยาทันทีทันใดเมื่อมนุษย์ได้รับความไม่ปลอดภัยหรือต้องการเอาตัวรอด จะทำงานค่อนข้างอัตโนมัติ ทำซ้ำๆโดยไม่รู้ตัว เหมือนเจอไฟแล้วรู้ว่าร้อนไม่เอามือไปจับ เจอความรักที่เจ็บปวดแล้วพยายามหลีกหนี ก็คือทำโดยไม่ต้องคิดว่าง่ายๆ

สมองส่วนที่ 3 นี้แหละค่ะที่นักการตลาดดิจิตอลให้ความสนใจมาก เพราะมันช่วยให้ลูกค้ามักตัดสินใจทำแบบเฉียบพลันและหยุดให้ความสนใจมากที่สุด ซึ่งถ้าเรามองกลับไปที่พฤติกรรมในยุคดิจิตอลที่คนให้ความสนใจระยะสั้น แปลว่าสมองส่วนที่นี้เราต้องให้ความสนใจที่จะกระตุ้นให้มากที่สุดในยุคความรวดเร็ว 5G

การต้องกระตุ้นด้วยสัญชาตญานเอาตัวรอดนี้ มีได้หลายรูปแบบ นั้นหมายถึงว่าเราต้องเข้าใจให้ได้ก่อนว่า ลูกค้าแต่ละคนต้องการเอาตัวรอดแบบไหน? อาจจะเป็นการเอาตัวรอดในสังคม การเอาตัวรอดเพื่อการดำรงชีวิต การเอาตัวรอดจากเพื่อน หรือสิ่งอื่นๆ เดียวบทความต่อไปจะมาเล่าต่อว่าสมองส่วนนี้กระตุ้นได้อย่างไรบ้าง? ในเชิงการใช้ Reptilian Marketing