8 เครื่องมือ ที่เอเจนซีโฆษณาเลือกใช้ ช่วยจัดการแคมเปญอย่างมืออาชีพMarketing8 เครื่องมือ ที่เอเจนซีโฆษณาเลือกใช้ ช่วยจัดการแคมเปญอย่างมืออาชีพ

8 เครื่องมือ ที่เอเจนซีโฆษณาเลือกใช้ ช่วยจัดการแคมเปญอย่างมืออาชีพ

เอเจนซี

การทำโฆษณาออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่แค่การเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสม แต่ยังต้องอาศัยเครื่องมือช่วยจัดการแคมเปญ ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถวางแผน วิเคราะห์ และปรับกลยุทธ์ได้อย่างแม่นยำ ซึ่งเอเจนซีโฆษณาชั้นนำ มักใช้เครื่องมือเฉพาะทาง ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญ 

ในบทความนี้ Common Ground จะพาคุณไปรู้จักกับ 8 เครื่องมือยอดนิยมที่ Agency ใช้จริง เพื่อให้คุณสามารถนำไปปรับใช้กับแคมเปญของธุรกิจได้อย่างมืออาชีพ ซึ่งจะมีเครื่องมือที่น่าสนใจอะไรบ้าง เรามาดูกัน

รู้จัก MarTech คืออะไร ? ทำไมเอเจนซีโฆษณาถึงต้องให้ความสำคัญ

คำว่า MarTech ย่อมาจาก Marketing Technology ซึ่งเป็นเครื่องมือ และเทคโนโลยีที่ใช้ในการวางแผน การจัดการ และการวิเคราะห์แคมเปญการตลาด โดยเน้นปรับปรุงประสิทธิภาพของแคมเปญ ผ่านการใช้เทคโนโลยี เพื่อทำให้การตลาดมีความแม่นยำ และตรงเป้าหมายมากขึ้น

ซึ่ง MarTech จะเข้ามาช่วยให้ Agency โฆษณา สามารถเชื่อมโยงข้อมูลจากหลายแหล่งที่แตกต่างกันได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะทำให้วิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคได้ในทันที โดยไม่ต้องพึ่งพาการวิเคราะห์ข้อมูลจากมนุษย์ ทำให้สามารถปรับปรุงกลยุทธ์การโฆษณาให้มีความเหมาะสม และทันสมัยอยู่เสมอ

โดยสรุปแล้วความสำคัญของ MarTech หลัก ๆ เลยคือการช่วยให้ Agency สามารถทำงานได้รวดเร็วขึ้น และลดข้อผิดพลาดจากการทำงานด้วยตนเอง ที่สำคัญที่สุด คือการช่วยให้แคมเปญโฆษณา มีประสิทธิภาพสูงสุด ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

เอเจนซี

แนะนำ 8 เครื่องมือยอดนิยม ที่เอเจนซีเลือกใช้ จัดการแคมเปญโฆษณา 

ในยุคนี้ที่การตลาดดิจิทัลเติบโตอย่างรวดเร็ว เครื่องมือที่เลือกใช้มีบทบาทสำคัญต่อความสำเร็จของแคมเปญโฆษณาเป็นอย่างมาก ดังนั้น ในส่วนนี้เราจะมาแนะนำ 8 เครื่องมือยอดนิยมที่ Agency เลือกใช้ เพื่อช่วยบริหาร และจัดการแคมเปญให้มีประสิทธิภาพสูงสุด จะมีอะไรบ้าง มาดูกัน

  1. Google Ads

Google Ads เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ขาดไม่ได้ สำหรับการทำโฆษณาออนไลน์ โดยเฉพาะบนเครือข่ายของ Google ไม่ว่าจะเป็น Search Ads, Display Ads, YouTube Ads, หรือ Shopping Ads เอเจนซีใช้ Google Ads เพื่อสร้างโฆษณาให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย โดยมีฟีเจอร์สำคัญ เช่น Keyword Planner, Audience Targeting, และ Performance Tracking ที่ช่วยให้การวางแผน และปรับแต่งแคมเปญมีประสิทธิภาพมากขึ้น

  1. Facebook Business Manager

Facebook Business Manager เป็นเครื่องมือหลัก สำหรับจัดการโฆษณาบนแพลตฟอร์มของ Meta ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram หรือ Messenger โดย Agency สามารถใช้เครื่องมือนี้ในการสร้างแคมเปญ กำหนดกลุ่มเป้าหมาย และติดตามผลลัพธ์ได้อย่างละเอียด จุดเด่นของ Facebook Business Manager คือความสามารถในการกำหนดกลุ่มเป้าหมายแบบละเอียด (Custom Audience และ Lookalike Audience) ซึ่งช่วยให้การเข้าถึงลูกค้าแม่นยำยิ่งขึ้น

  1. Google Analytics 

Google Analytics เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลเว็บไซต์ ที่เอเจนซีใช้ในการติดตามพฤติกรรมของผู้ใช้งานบนเว็บไซต์ สามารถวิเคราะห์ Traffic, Conversion Rate และประสิทธิภาพของโฆษณาได้แบบเรียลไทม์ Agency สามารถใช้ข้อมูลจาก Google Analytics มาปรับปรุงแคมเปญให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยดูว่าผู้ใช้มาจากช่องทางใด และมีพฤติกรรมอย่างไรบนเว็บไซต์

ทั้งนี้ ไม่ว่าคุณจะเป็นธุรกิจที่ต้องการขยายตลาด หรือกำลังมองหากลยุทธ์โฆษณาที่มีประสิทธิภาพ Common Ground เอเจนซี่พร้อมเป็นพันธมิตรที่ช่วยให้คุณก้าวสู่ความสำเร็จ ด้วยทีมงานมืออาชีพ และเครื่องมือการตลาดที่ทันสมัย !

  1. SEMrush

SEMrush เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ Agency วิเคราะห์ทั้ง SEO (Search Engine Optimization), PPC (Pay-Per-Click), Content Marketing และ Competitive Analysis  ได้อย่างละเอียด โดยสามารถใช้ตรวจสอบคีย์เวิร์ด วิเคราะห์คู่แข่ง และติดตามอันดับของเว็บไซต์ในผลการค้นหาได้ 

นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ที่ช่วยในการปรับปรุงโฆษณา Google Ads โดยการค้นหาคีย์เวิร์ดที่มีประสิทธิภาพ และวิเคราะห์โฆษณาของคู่แข่งเพื่อปรับกลยุทธ์ให้ดียิ่งขึ้น 

ซึ่งหากถามว่า SEMrush เหมาะกับใคร ? คำตอบคือเหมาะ Agency โฆษณา และการตลาดออนไลน์ ที่ต้องการวิเคราะห์ตลาด และคู่แข่งอย่างแม่นยำ รวมถึงยังเหมาะกับผู้เชี่ยวชาญ SEO ที่ต้องการเพิ่มอันดับเว็บไซต์บน Google และเจ้าของธุรกิจ E-commerce ที่ต้องการหาโอกาสในการแข่งขัน และทำโฆษณาออนไลน์

  1. Ahrefs

Ahrefs เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือยอดนิยมที่ Agency เลือกใช้ โดยเฉพาะสำหรับงานที่เกี่ยวข้องกับการสร้าง Backlink, การวิเคราะห์คู่แข่ง, และการเพิ่มประสิทธิภาพ SEO โดย Ahrefs เป็นเครื่องมือที่เชี่ยวชาญ ด้านการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ Backlink และช่วยให้เว็บไซต์สามารถเพิ่มอันดับการค้นหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ คุณสมบัติหลักของ Ahrefs มีดังนี้

  • วิเคราะห์เว็บไซต์ของคู่แข่ง

ช่วยตรวจสอบปริมาณ Traffic และแหล่งที่มาของ Traffic เว็บไซต์คู่แข่ง รวมทั้งดูว่าหน้าเพจไหนที่มีอันดับดีที่สุด และดึงดูดผู้เข้าชมมากที่สุด

อีกทั้งยังช่วยค้นหา Organic Keywords ที่คู่แข่งใช้เพื่อให้เว็บไซต์ติดอันดับด้วยเช่นกัน

  • วิเคราะห์ Backlink

Ahrefs มีฐานข้อมูล Backlink ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ทำให้สามารถวิเคราะห์ได้ว่าเว็บไซต์ใดให้ลิงก์มาที่เว็บไซต์ของเรา นอกจากนี้ ยังสามารถค้นหาลิงก์เสีย (Broken Links) และช่วยให้เราสามารถเรียกคืนลิงก์ได้ อีกทั้งยังสามารถวิเคราะห์ Domain Rating (DR) และ URL Rating (UR) เพื่อประเมินคุณภาพของลิงก์ได้

  • ค้นหาคีย์เวิร์ดที่ดีที่สุด

ช่วยวิเคราะห์ ความยาก (Keyword Difficulty) และปริมาณการค้นหา ของคีย์เวิร์ด รวมทั้งค้นหาคีย์เวิร์ดที่มี โอกาสในการติดอันดับสูง

  • ค้นหาคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยม

เครื่องมือ Ahrefs สามารถช่วยค้นหาบทความ ที่มีการแชร์สูงในอุตสาหกรรมของคุณ รวมทั้งช่วยตรวจสอบว่าบทความของคู่แข่งได้รับ Backlink จากเว็บไซต์ใดบ้าง

  • ตรวจสอบคุณภาพของเว็บไซต์

ช่วยตรวจสอบโครงสร้างเว็บไซต์ และข้อผิดพลาดทางเทคนิค รวมไปถึงวิเคราะห์ว่าหน้าเว็บใดที่มีปัญหาด้าน SEO บ้างและแนะนำแนวทางแก้ไข

  • ติดตามอันดับคีย์เวิร์ด

ช่วยตรวจสอบว่าเว็บไซต์ของคุณ ติดอันดับที่เท่าไหร่ในผลการค้นหา และติดตามการเปลี่ยนแปลงของอันดับคีย์เวิร์ด เมื่อมีการอัปเดตอัลกอริธึมของ Google

ทั้งนี้ Ahrefs เป็นเครื่องมือที่เหมาะกับ SEO Specialist และนักการตลาดออนไลน์ที่ต้องการวิเคราะห์ Backlink และเพิ่มอันดับ SEO รวมถึง Agency โฆษณา ที่ต้องการวิเคราะห์กลยุทธ์ SEO ของคู่แข่ง และเจ้าของเว็บไซต์ ที่ต้องการเพิ่มทราฟฟิกแบบออร์แกนิกจาก Google เป็นต้น

  1. Hootsuite

Hootsuite เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ Agency สามารถบริหารจัดการบัญชีโซเชียลมีเดียหลายแพลตฟอร์มได้ในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็น การตั้งเวลาโพสต์ วิเคราะห์ผลลัพธ์ หรือจัดการโฆษณาบนโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เช่น Facebook, Instagram, X (Twitter), และ LinkedIn โดยจุดเด่นของ Hootsuite คือการทำงานแบบอัตโนมัติ ที่ช่วยลดเวลาการบริหารจัดการ และเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณาได้

  1. Canva

Canva เป็นเครื่องมือออกแบบกราฟิกที่ใช้งานง่าย และเหมาะสำหรับ Agency ที่ต้องการสร้างคอนเทนต์โฆษณาอย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องใช้โปรแกรมที่ซับซ้อนอย่าง Photoshop หรือ Illustrator โดยทำให้ Agency สามารถใช้ Canva ในการออกแบบแบนเนอร์ โพสต์โซเชียลมีเดีย หรือแม้แต่วิดีโอสั้น ๆ ได้อย่างมืออาชีพ

  1. HubSpot

HubSpot เป็นแพลตฟอร์ม CRM (Customer Relationship Management) และการตลาดอัตโนมัติ ที่เอเจนซีใช้ในการติดตาม และบริหารลูกค้า รวมถึงการทำ Email Marketing, Content Marketing, และ Lead Nurturing HubSpot ซึ่งช่วยให้ Agency สามารถสร้างแคมเปญที่มีประสิทธิภาพ และเชื่อมโยงกับช่องทางการตลาดต่าง ๆ ได้อย่างเป็นระบบ

สุดท้ายนี้ หากคุณกำลังมองหาเอเจนซี่การตลาดแบบครบวงจร Common Ground คือคำตอบที่ใช่ ! เพราะเราเป็น Agency การตลาดครบวงจร ตั้งแต่การวางแผนโฆษณา การตลาดดิจิทัล ไปจนถึงการวิเคราะห์ผลลัพธ์ ด้วยการใช้เทคโนโลยี MarTech อันทันสมัย ช่วยให้แคมเปญของคุณมีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ที่จะช่วยให้คุณออกแบบและบริหารจัดการแคมเปญให้ตรงเป้าหมาย หากสนใจ ติดต่อเราได้ที่

Tel: 081-426-6695

Email: Enjoy@iamcommonground.com

Facebook Page: Common Ground