Social Commerce คืออะไร ทำไมถึงสำคัญกับการตลาดออนไลน์
ในยุคที่คนส่วนใหญ่ใช้ Social Media ในการติดต่อสื่อสารกันเป็นหลัก ทำให้เกิดการทำธุรกิจบนโลกออนไลน์ เพื่อให้การซื้อขายสินค้าเป็นเรื่องง่าย และรวดเร็วมากกว่าเดิม ด้วยเหตุนี้ ธุรกิจต่าง ๆ จึงได้เริ่มเบนเข็มมาทำ Social Commerce หรือการขายของผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์กันมากขึ้น
เนื่องจาก โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางที่ง่ายต่อการซื้อขาย และเต็มไปด้วยส่วนลดพิเศษมากมาย ทั้งยังเพิ่มโอกาสให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในกลุ่มเป้าหมาย และกลุ่มคนทั่วไปมากขึ้นอีกด้วย จึงไม่แปลกใจเลยว่า Social Commerce ถึงกลายเป็นกลยุทธ์การตลาด ที่ตอบโจทย์พฤติกรรมของคนรุ่นใหม่มากกว่ากลยุทธ์อื่น ๆ
สำหรับเจ้าของแบรนด์หน้าใหม่ ที่กำลังอยู่ในช่วงศึกษาเทรนด์การตลาดออนไลน์ ในบทความนี้ Common Ground จะพาไปดูว่า Social Commerce มีความสำคัญในปี 2025 มากน้อยขนาดไหน พร้อมกับแชร์กลยุทธ์การทำ Social Commerce ให้ประสบความสำเร็จในระยะยาว เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปดูกัน
เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน
รู้จัก Social Commerce เทรนด์การตลาดออนไลน์แห่งปี 2025
Social Commerce คือ เครื่องมือในการทำการตลาด สำหรับการซื้อสินค้า หรือบริการภายในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, Instagram, และ TikTok เป็นต้น เนื่องจาก ธุรกิจส่วนใหญ่ได้ทำการตลาดบนโลกออนไลน์กันอยู่แล้ว แต่ละแพลตฟอร์มจึงพัฒนาระบบ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถซื้อสินค้าได้ทันที โดยไม่ต้องไปสั่งซื้อในแอปพลิเคชันอื่นให้เสียเวลา
ด้วยเหตุนี้ เจ้าของแบรนด์ส่วนใหญ่เริ่มหันมาเปิดร้านค้า ตามแพลตฟอร์มต่าง ๆ กันมากขึ้น เพื่อให้สินค้าเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งประโยชน์ของ Social Commerce ก็มีอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น
- เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้รวดเร็ว
การซื้อขายสินค้าบนโซเชียลมีเดีย เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายกว่าการทำการตลาดบนเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันของแบรนด์โดยตรง เพราะลูกค้าสามารถค้นหาคอมเมนต์ และรีวิวจากผู้ใช้งานท่านอื่นได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่เจ้าของแบรนด์ ก็สามารถผลิตคอนเทนต์ได้ง่าย และยิงแอดให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ภายในระยะเวลาสั้น ๆ
- เพิ่มช่องทางในการเข้าถึงลูกค้า และการจัดจำหน่าย
เนื่องด้วย ในปัจจุบันแพลตฟอร์มโซเชียลส่วนใหญ่ ต่างก็พากันพัฒนาแอปพลิเคชันให้รองรับการทำ Social Commerce มากขึ้น ทำให้ลูกค้าสามารถทักไปสอบถาม เลือกสินค้า และจ่ายเงินได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้โอกาสในการเข้าถึงถึงลูกค้า และการจัดจำหน่ายสินค้าง่ายขึ้นกว่าเดิม
ที่สำคัญ จุดเด่นของเครื่องมือ Social Commerce คือ แบรนด์สามารถดูแลลูกค้าได้อย่างใกล้ชิด จากพูดคุยกับลูกค้าได้ในทันที โดยไม่ต้องปล่อยให้ลูกค้ารอนาน เพราะในปัจจุบันได้มีฟีเจอร์ Chatbot ที่คอยช่วยตอบคำถามลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง
- ง่ายต่อการเก็บข้อมูลของลูกค้า
หนึ่งในจุดเด่นสำคัญของการทำ Social Commerce คือ การได้รับฐานข้อมูลของลูกค้ามาไว้ในมือ ส่งผลให้การทำ Personalization Marketing มีประสิทธิภาพ และวาง Strategy เกี่ยวกับกลยุทธ์การตลาดแบบออนไลน์ในอนาคตได้ง่ายขึ้น เช่น โปรโมชันลดราคาในเดือนเกิด, ส่วนลด 30% สำหรับลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้าใหม่ และโปรโมชัน 1 แถม 1 ในช่วงลดล้างสต๊อก เป็นต้น
- ไม่มีหน้าร้านก็ทำเงินได้
อย่างที่รู้กันดีว่า คนส่วนใหญ่หันมาชอปออนไลน์กันมากขึ้น ทำให้พ่อค้าแม่ค้ามือใหม่เพิ่มโอกาสทำกำไร และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว เพราะแค่มีโทรศัพท์มือถือ ความครีเอทีฟในการคิดคอนเทนต์ และแผนทำการตลาดแบบออนไลน์ที่ดี ก็สามารถปั้นแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านอีกต่อไป
ทั้งนี้ หากเจ้าของแบรนด์หน้าใหม่กำลังมองหาที่ปรึกษาการตลาด ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์ โดยเฉพาะการทำ Social Commerce เพื่อเพิ่มยอดขายของแบรนด์ ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ Common Ground พร้อมช่วยให้คำปรึกษา เสมือนเพื่อนคู่คิดที่รู้จักใจคุณ
แจก กลยุทธ์เด็ด ทำ Social Commerce ให้พิชิตใจลูกค้าได้อยู่หมัด
การสร้างกลยุทธ์ในการทำ Social Commerce เป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าของแบรนด์ควรทำ เพราะการวางแผนที่ดีย่อมช่วยให้กลยุทธ์ที่วางไว้ สำเร็จได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ดังนั้น Common Ground จึงได้รวบรวมวิธีทำ Social Commerce ให้ประสบความสำเร็จ และปั้นแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมาไว้ให้ทุกคนแล้ว ดังนี้
- ทำความรู้จักลูกค้าให้ดีก่อน
ในยุคที่แต่ละแบรนด์แข่งกันทำการตลาด และคิดค้นคอนเทนต์มาสร้างตัวตนของแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก ความสำเร็จส่วนหนึ่งของแบรนด์ จึงเริ่มจากการสำรวจกลุ่มเป้าหมายให้ละเอียด เพื่อวางแผนแคมเปญการตลาดแบบออนไลน์ รวมถึงสร้างประสบการณ์ที่ดีในการซื้อสินค้า และบริการให้กับลูกค้า
- เลือกแพลตฟอร์มที่ถูกต้อง
หลังจากที่ศึกษา และทำความรู้จักกลุ่มเป้าหมายเรียบร้อยแล้ว เจ้าของแบรนด์จะได้เห็นว่าแพลตฟอร์มไหนบ้าง ที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้รวดเร็วที่สุด เพราะหากนำสินค้ามาวางขายในช่องทางที่กลุ่มลูกค้าไม่นิยมใช้งาน ก็อาจทำให้ขาดทุนโดยไม่รู้ตัว ทั้งยังเสียเวลาในการทำการตลาดออนไลน์อีกด้วย
ซึ่งวิธีการเลือกแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ก็สามารถดูได้จากข้อมูล Insight ของลูกค้าที่วิเคราะห์มา ยกตัวอย่างเช่น แบรนด์ลิปสติกรุ่นกลอส ราคาเข้าถึงง่าย และเน้นขายสี Cool tone เป็นหลัก แนะนำให้เน้นทำการตลาดใน TikTok ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่คนรุ่นใหม่ชอบหารีวิว และสั่งสินค้าผ่านทาง TikTok Shop เป็นต้น
- ใช้ช่องทาง Live Stream ให้เป็นประโยชน์
เพราะเดี๋ยวนี้ทุกแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ต่างก็มีฟีเจอร์ไลฟ์กันหมดแล้ว ทำให้แต่ละแบรนด์มีช่องทาง Live Stream ไว้พูดคุยกับลูกค้าได้อย่างใกล้ชิดอยู่ตลอดเวลา และไลฟ์ขายของในช่วงโปรโมชันเด็ดประจำเดือนได้ง่าย หากลูกค้าต้องการสอบถามเกี่ยวกับสินค้า ก็สามารถตอบคำถามแบบเรียลไทม์ได้ในทันที
- โพสต์โปรโมตสินค้าตลอดเวลา
ทุกครั้งที่ออกสินค้าใหม่ หรือต้องการดึงดูดลูกค้าใหม่ ๆ ให้เข้ามาสั่งซื้อสินค้าในร้าน ก็อย่าลืมโพสต์คอนเทนต์ลงในโซเชียลเป็นประจำ โดยคอนเทนต์ที่นำเสนอบนโลกโซเชียล จะต้องมีความน่าสน และเข้าใจว่าลูกค้าต้องการอะไรบ้าง ทั้งนี้ อย่าลืมเขียนรายละเอียดสินค้าให้เรียบร้อย และใส่ลิงก์ซื้อสินค้าในแต่ละโพสต์ เพื่อให้ลูกค้ากดซื้อได้ทันทีที่ต้องการ
- อัปเดตเทรนด์ได้ตลอดเวลา
เมื่อพฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนแปลงไปอยู่ตลอดเวลา ทำให้เจ้าของแบรนด์ ควรให้ความสำคัญกับการทำ Social Commerce เพราะกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่เคยใช้ในปัจจุบัน อาจเป็นวิธีที่ไม่ได้ผลในอนาคต ดังนั้น ควรติดตามเทรนด์การตลาดใหม่ ๆ และพัฒนากลยุทธ์ของแบรนด์อยู่เสมอ เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกอยากสั่งซื้อสินค้าอยู่ตลอดเวลา
เป็นอย่างไรบ้าง กับเกร็ดความรู้ที่น่าสนใจเกี่ยวกับ Social Commerce เครื่องมือการตลาดออนไลน์ ที่เจ้าของแบรนด์ควรให้ความสนใจ และศึกษาให้ถี่ถ้วนก่อนลงมือขายสินค้าบนแพลตฟอร์มโซเชียล เพราะหากไม่มีความเข้าใจเรื่องของเทรนด์ และ Marketing ก็อาจเดินตามหลังแบรนด์คู่แข่งได้โดยไม่รู้ตัว
สำหรับใครที่ต้องการเพิ่มยอดขายให้กับแบรนด์ สามารถเลือกใช้บริการจาก Common Ground Agency กันได้ เพราะเราคือที่ปรึกษาการตลาดที่เชี่ยวชาญด้านการทำคอนเทนต์ และการตลาดออนไลน์ทุกรูปแบบ หากต้องการปรึกษา หรือสอบถามเพิ่มเติม สามารถติดต่อเราได้ที่
Tel: 081-426-6695
Email: Enjoy@iamcommonground.com
Facebook Page: Common Ground