มัดรวมตัวอย่าง Content Marketing ที่ประสบความสำเร็จ

ในปัจจุบันที่การแข่งขันทางธุรกิจสูงขึ้น การทำ Content Marketing จึงกลายเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญ ที่ช่วยให้แบรนด์เข้าถึงลูกค้า และสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคอนเทนต์จะสามารถสร้างผลลัพธ์ที่ดีได้ ซึ่งคุณจำเป็นต้องมีกลยุทธ์ที่ชัดเจน และเลือกใช้แนวทางที่เหมาะสมกับธุรกิจ

ในบทความนี้ Common Ground จะพาคุณไปเจาะลึก Content Marketing Frameworks ที่ช่วยสร้างคอนเทนต์ให้โดนใจ พร้อมตัวอย่างจากธุรกิจ ที่นำกลยุทธ์นี้ไปใช้จนประสบความสำเร็จ เพื่อให้คุณสามารถนำไปปรับใช้กับธุรกิจของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าพร้อมแล้ว เราไปดูกัน

เจาะ Content Marketing Frameworks ตัวช่วยสร้างคอนเทนต์ให้โดนใจ

การทำการตลาดผ่านคอนเทนต์ให้ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่แค่การสร้างคอนเทนต์แบบสุ่ม ๆ แล้วโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย แต่ต้องมีกลยุทธ์ที่ดี เพื่อให้คอนเทนต์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจได้จริง โดยต่อไปนี้ คือ Content Marketing Frameworks ที่จะช่วยให้การสร้างคอนเทนต์ของคุณ มีประสิทธิภาพมากขึ้น และสามารถนำไปปรับใช้ได้จริงกับทุกธุรกิจ 

1. TOFU-MOFU-BOFU

TOFU-MOFU-BOFU เป็นกลยุทธ์การตลาดที่ใช้ใน Content Marketing Framework โดยจะแบ่ง Digital Marketing Funnel ออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่

• TOFU (Top of the Funnel): สร้างคอนเทนต์สำหรับคนที่ยังไม่รู้จักแบรนด์ โดยเน้นการให้ความรู้ และการสร้างความน่าสนใจ เพื่อดึงดูดให้เข้ามามีส่วนร่วม หรือมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ เช่น การทำบทความ How-to, วิดีโอเล่าประสบการณ์ หรือเนื้อหาที่ช่วยแก้ปัญหาของผู้บริโภคในเบื้องต้น 
• MOFU (Middle of the Funnel): สร้างคอนเทนต์สำหรับคนที่สนใจสินค้า/บริการ โดยเน้นการสร้างเนื้อหาแบบเจาะลึก และมีการนำเสนอโซลูชันที่ตอบโจทย์ปัญหาของกลุ่มเป้าหมาย
• BOFU (Bottom of the Funnel): สร้างคอนเทนต์สำหรับกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ เพื่อโน้มน้าวใจ เช่น คอนเทนต์รีวิวจากผู้ใช้จริง การเปรียบเทียบสินค้า หรือโปรโมชันพิเศษ ซึ่งช่วยเร่งกระบวนการตัดสินใจ และเพิ่มโอกาสปิดการขายได้มากขึ้น

2. The Hedgehog Concept

The Hedgehog Concept เป็นแนวคิดที่ช่วยให้ธุรกิจมุ่งเน้นไปที่สิ่งที่ทำได้ดีที่สุด และสร้างความแตกต่างที่ยั่งยืน ซึ่งสามารถนำมาใช้ในการทำการตลาดผ่านคอนเทนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการเลือกหัวข้อที่เหมาะสมกับแบรนด์ สร้างคอนเทนต์ที่มีคุณค่า และพัฒนาโมเดลที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโต

เมื่อแบรนด์สามารถหาจุดตัดระหว่างความหลงใหล ความเชี่ยวชาญ และผลลัพธ์ทางธุรกิจได้ ก็จะสามารถสร้างคอนเทนต์ที่มีเอกลักษณ์ ดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย และสร้างความสำเร็จในระยะยาว 

โดยจุดเด่นของ Hedgehog Concept จะเป็นการหาจุดตัดของ 3 องค์ประกอบหลัก ดังนี้

• Passion (ความหลงใหล)

คอนเทนต์ ควรสะท้อนถึงสิ่งที่แบรนด์มีความหลงใหล และเชื่อมั่น เพราะการทำคอนเทนต์ในเรื่องที่แบรนด์ให้ความสำคัญจริง ๆ จะช่วยให้เกิดความสม่ำเสมอ และสร้างความน่าเชื่อถือในระยะยาว

• Best at (ความเชี่ยวชาญ)

เน้นการสร้างคอนเทนต์ที่โดดเด่น และแตกต่างจากคู่แข่ง ธุรกิจต้องค้นหา และเข้าใจว่าตนเองมีความเชี่ยวชาญในเรื่องใดเป็นพิเศษ แล้วนำสิ่งนั้นมาเป็นแกนหลักในการสร้างคอนเทนต์ ซึ่งจะช่วยให้แบรนด์โดดเด่นกว่าคู่แข่ง และมีจุดยืนที่แข็งแกร่ง

• Economic Engine (ผลลัพธ์ทางธุรกิจ) 

คอนเทนต์ที่สร้างขึ้น ควรสามารถช่วยให้ธุรกิจเติบโต และสร้างผลกำไรได้จริง เช่น การสร้างคอนเทนต์ที่ช่วยกระตุ้นยอดขาย ดึงดูดลูกค้าใหม่ หรือเพิ่มอัตราการมีส่วนร่วมของกลุ่มเป้าหมาย เป็นต้น

Tips การประยุกต์ใช้ The Hedgehog Concept ในการทำการตลาดผ่านคอนเทนต์

➞ เลือกหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับความเชี่ยวชาญของแบรนด์ เช่น การให้คำแนะนำเฉพาะทาง รีวิวเชิงลึก หรือบทวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ 

➞ ผลิตคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด เช่น หากคุณทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหารสุขภาพ คอนเทนต์ของคุณอาจเน้นไปที่เคล็ดลับการกินเพื่อสุขภาพ สูตรอาหารคลีน หรือรีวิววัตถุดิบที่ดีต่อสุขภาพ เป็นต้น

➞ สร้างความแตกต่างด้วยจุดแข็งของตัวเอง เช่น แบรนด์เครื่องสำอางที่เน้นความยั่งยืน อาจเน้นทำคอนเทนต์เกี่ยวกับ Beauty & Sustainability เพื่อแสดงถึงจุดยืนของแบรนด์

➞ พัฒนาโมเดลการสร้างรายได้ผ่านคอนเทนต์ เช่น การสร้าง Blog หรือ YouTube Channel ที่ช่วยให้แบรนด์กลายเป็นแหล่งข้อมูลหลักในอุตสาหกรรม

3. Content Marketing Matrix

Content Marketing Matrix คือเครื่องมือที่ช่วยเลือกประเภทของคอนเทนต์ ให้เหมาะกับเป้าหมายทางการตลาด และความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก ดังนี้

• คอนเทนต์ที่ให้ความบันเทิง (Entertain): คอนเทนต์ดึงดูดความสนใจ และเพิ่ม Engagement เพื่อสร้างการรับรู้ (Awareness)
• คอนเทนต์ที่สร้างแรงบันดาลใจ (Inspire): คอนเทนต์กระตุ้นอารมณ์ ความสัมพันธ์กับแบรนด์ ซึ่งเหมาะสำหรับเพิ่มความสนใจ (Consideration)

• คอนเทนต์ที่ให้ความรู้ (Educate): คอนเทนต์สร้างความน่าเชื่อถือ และให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ซึ่งจะเหมาะสำหรับช่วยให้ตัดสินใจ (Consideration & Decision)
• คอนเทนต์ที่โน้มน้าวใจ (Convince): คอนเทนต์กระตุ้นให้ซื้อ และเพิ่มยอดขาย เหมาะสำหรับปิดการขาย (Decision)

ทั้งนี้ หากคุณต้องการทำการตลาดผ่านคอนเทนต์ ที่มีประสิทธิภาพ ดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย และสร้างผลลัพธ์ที่จับต้องได้ ให้ Common Ground พร้อมช่วยคุณ เพราะเราเป็นเอเจนซีการตลาดมืออาชีพ พร้อมบริการรับทำ Content Marketingแบบครบวงจร !

ตัวอย่างธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ จากการใช้ Content Marketing

แน่นอนว่า Content Marketing เป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโต สร้างการรับรู้ และดึงดูดลูกค้าได้ ดังนั้น เรามาดูตัวอย่างธุรกิจที่ใช้การทำการตลาดผ่านคอนเทนต์ให้ประสบความสำเร็จกัน

• HubSpot

HubSpot เป็นตัวอย่างที่ดีของแบรนด์ที่ใช้ Inbound Marketing และ Content Marketing เพื่อดึงดูดลูกค้าเข้ามาเอง โดยแทนที่จะเน้นโฆษณาแบบ Push Marketing พวกเขาสร้างบล็อก วิดีโอ และ E-Book ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการตลาดดิจิทัล และเครื่องมือที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโต โดยจุดเด่นของกลยุทธ์ที่ใช้ของ HubSpot ได้แก่

➡ การใช้คอนเทนต์ให้ความรู้ เพื่อดึงดูดลูกค้าเป้าหมาย

➡ การมี SEO Strategy ที่แข็งแกร่ง ทำให้เว็บไซต์ติดอันดับ Google

➡ การใช้ Lead Magnet เช่น E-Book และ Webinars เพื่อเปลี่ยนผู้ชมให้กลายเป็นลูกค้า

• Glossier

Glossier เป็นแบรนด์เครื่องสำอางที่ประสบความสำเร็จจาก User-Generated Content (UGC) โดยพวกเขาให้ความสำคัญกับรีวิวจากลูกค้า การแชร์ประสบการณ์ผ่านโซเชียลมีเดีย และการสร้างชุมชนของผู้ใช้ที่รักในผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ ซึ่งจุดเด่นของกลยุทธ์ที่ใช้หลัก ๆ จะได้แก่

➡ ใช้คอนเทนต์ที่มาจากผู้ใช้จริง (UGC) เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ

➡ เน้นการมีส่วนร่วมผ่าน Instagram และ TikTok

➡ ให้ลูกค้าเป็นผู้โปรโมตแบรนด์ผ่านการรีวิวสินค้า

• Airbnb 

Airbnb ไม่ได้ขายแค่ที่พัก แต่ขาย “ประสบการณ์” โดยพวกเขาสร้างคอนเทนต์เกี่ยวกับการท่องเที่ยว วัฒนธรรม และไลฟ์สไตล์ของคนท้องถิ่น ทำให้แบรนด์สามารถเชื่อมต่อกับนักเดินทาง และเจ้าของที่พักได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยจุดเด่นของกลยุทธ์การทำการตลาดผ่านคอนเทนต์ของ Airbnb จะได้แก่

➡ ใช้ Blog และ Social Media เพื่อแชร์เรื่องราวการเดินทาง

➡ มี SEO และ Localized Content ที่ช่วยให้คนค้นหาได้ง่ายขึ้น

➡ สร้างแพลตฟอร์มสำหรับรีวิวที่พักจากผู้ใช้จริง

อัปเดต ! เทรนด์ Content Marketing ที่กำลังมาแรงในปี 2025 นี้

เทรนด์ของ Content Marketing เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และในปี 2025 เทรนด์ที่น่าจับตามอง มีดังนี้

1. AI-Generated Content + Human Touch

การใช้ AI สร้างคอนเทนต์จะเพิ่มขึ้น แต่จะเน้นการผสมผสานกับการปรับแต่งโดยมนุษย์ เพื่อให้มีความเป็นธรรมชาติ และตรงใจผู้บริโภคมากขึ้น

2. Short-Form Video ครองตลาด

แพลตฟอร์มอย่าง TikTok, Instagram Reels และ YouTube Shorts ยังคงเป็นช่องทางหลักของแบรนด์ ที่ต้องการเข้าถึงผู้บริโภคด้วยคอนเทนต์สั้น กระชับ และน่าสนใจ

3. Podcast และ Audio Content กำลังเติบโต

คอนเทนต์เสียง กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจาก สะดวกในการฟังขณะทำกิจกรรมอื่น ๆ เช่น ขับรถ ออกกำลังกาย หรือทำงานบ้าน

4. Ethical & Sustainable Content

ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับแบรนด์ ที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อมมากขึ้น คอนเทนต์ที่เกี่ยวกับ Sustainability, Green Marketing และ ESG จะได้รับความสนใจ

5. Interactive Content & Immersive Experiences

คอนเทนต์แบบมีส่วนร่วม เช่น AR Filters, Polls, Quizzes และ Gamification จะช่วยเพิ่ม Engagement และทำให้ผู้ใช้มีประสบการณ์ที่ดีกับแบรนด์

ในปี 2025 การสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ และตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย จะเป็นกุญแจสำคัญในการทำ Content Marketing ให้ประสบความสำเร็จ

และสำหรับใครที่กำลังมองหาเอเจนซี หรือที่ปรึกษาการตลาดที่รับทำ Content Marketing ขอให้นึกถึง Common Ground เราคือเอเจนซีการตลาดที่พร้อมช่วย วางกลยุทธ์ พัฒนา และสร้างคอนเทนต์คุณภาพ เพื่อผลักดันธุรกิจของคุณให้เติบโต และประสบความสำเร็จ สนใจติดต่อได้ที่ 

Tel: 081-426-6695

Email: Enjoy@iamcommonground.com

Facebook Page: Common Ground