อัปเดตเทรนด์ และแนวทางการทำ SEO ปี 2025SEOอัปเดตเทรนด์ และแนวทางการทำ SEO ปี 2025

อัปเดตเทรนด์ และแนวทางการทำ SEO ปี 2025

SEO

ในยุคที่เทคโนโลยี และการค้นหาข้อมูลเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การทำ SEO (Search Engine Optimization) จึงไม่ใช่แค่เรื่องของการปรับแต่งคีย์เวิร์ด หรือการสร้างลิงก์เท่านั้น ซึ่งปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากการพัฒนา AI และพฤติกรรมการค้นหาของผู้ใช้ ทำให้เราต้องเริ่มปรับตัว และมองหากลยุทธ์ใหม่กันมากขึ้น

ในบทความนี้ Common Ground จะมาเจาะลึกถึงการปรับตัว ของการทำการตลาดออนไลน์บนเว็บไซต์ในปัจจุบัน เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในปี 2025 พร้อมทั้งเสนอเทคนิคใหม่ ๆ ที่ให้ทุกคนสามารถนำไปใช้ เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณยังคงติดอันดับในหน้าแรกของ Google จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ไปดูกัน

เรียนรู้การทำ SEO ที่ปรับตัวได้ “ASEO” กลยุทธ์ใหม่ที่น่าจับตามอง

SEO

การทำ SEO ในยุคนี้ ไม่ได้หยุดอยู่ที่การปรับคีย์เวิร์ดให้ตรงกับคำค้นหา แต่ยังต้องเน้นความยืดหยุ่นในการปรับตัว ให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของอัลกอริทึมในเครื่องมือค้นหา ดังนั้น การทำ Adaptive SEO (ASEO) จึงกลายมาเป็นแนวทางสำคัญ ที่จะช่วยให้เว็บไซต์ยังคงมีอันดับที่ดีในผลการค้นหา

โดย ASEO มุ่งเน้นไปที่การสร้างเว็บไซต์ ที่เป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ และไม่เพียงแค่ตอบโจทย์ผู้ใช้ แต่ยังต้องตอบโจทย์ AI ที่เข้ามามีบทบาทในการค้นหาในอนาคตด้วย เช่น Google Search หรือ ChatGPT และระบบค้นหาอื่น ๆ ที่จะเข้ามาเกี่ยวข้องในอนาคต 

โดย วิธีการปรับตัวเพื่อให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ มีดังนี้

  1. Technical SEO: ปรับปรุงโครงสร้างเว็บไซต์ ให้พร้อมใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในเรื่องความเร็วในการโหลด การรองรับการใช้งานบนมือถือ และการลดปัญหาทางเทคนิค เช่น หน้า 404 เป็นต้น
  1. SXO (Search Experience Optimization): การพัฒนาเว็บไซต์ให้มีประสบการณ์ใช้งานที่ดีต่อผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็น การออกแบบให้เข้าใจง่าย หรือเนื้อหาที่ตอบโจทย์ ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสที่ผู้ใช้ จะใช้เวลาในเว็บไซต์มากขึ้น ส่งผลให้ Google มองว่าเว็บไซต์มีคุณภาพ
  1. Link Building: การสร้าง Backlinks จากเว็บไซต์คุณภาพที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของเรา จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ และทำให้เว็บไซต์ติดอันดับได้ดียิ่งขึ้น
  1. External Signals: การเชื่อมโยงกับสังคม และการพูดถึงเว็บไซต์ หรือแบรนด์ของเรา ซึ่งแม้ว่า Google จะไม่ได้จัดอันดับเว็บไซต์ตามการพูดถึงแบรนด์โดยตรง แต่การมีคนค้นหาชื่อแบรนด์ของเราบ่อยขึ้น และการที่มีการพูดถึงในแพลตฟอร์มต่าง ๆ ก็สามารถเพิ่มความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ให้กับอัลกอริทึมของได้
  1. Silo-based Structure: จัดโครงสร้างเนื้อหาเป็นลำดับชั้นที่ชัดเจน จะช่วยให้ผู้ใช้ และ Google สามารถเข้าใจเนื้อหาได้ง่ายขึ้น และเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้อย่างสะดวก
  1. High-Quality Content: สร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพตามโมเดล E-E-A-T (Expertise, Experience, Authority, Trustworthiness) ประกอบไปด้วยความเชี่ยวชาญ ความน่าเชื่อถือ และข้อมูลที่อัปเดต และแม่นยำ เพราะ E-E-A-T ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญโดยเฉพาะในแง่การสร้างความเชื่อมั่น และความน่าเชื่อถือให้กับผู้ใช้งาน
  1. Keyword Research & Intent: วิเคราะห์ความตั้งใจของผู้ใช้จากการค้นหา ที่ไม่ใช่แค่การเลือกคำค้นหาที่มีความนิยมสูง แต่ต้องดูด้วยว่าคำค้นหาเหล่านั้น ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายหรือไม่

ทั้งนี้ หากคุณกำลังมองหาเอเจนซี่รับทำ SEO ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ และทำให้ธุรกิจของคุณเติบโต อย่ารอช้า ! Common Ground Agency มีทีมผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน

เรื่องต้องรู้ ! เมื่อ AI ทำให้การทำ SEO เป็นอัตโนมัติ

SEO

ปัจจุบัน AI กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำ SEO อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จากการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก การสร้างคอนเทนต์ ไปจนถึงการปรับแต่งเว็บไซต์แบบอัตโนมัติ ซึ่งข้อดีของการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้มีหลายอย่าง ได้แก่

  • การวิเคราะห์คีย์เวิร์ดที่รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

AI สามารถช่วยวิเคราะห์ และเลือกคีย์เวิร์ดที่มีแนวโน้ม ว่าผู้ใช้งานจะค้นหามากที่สุด จากการดูประวัติการค้นหา พฤติกรรมของผู้ใช้ และแม้กระทั่งเทรนด์ที่กำลังมาแรง ซึ่งจะช่วยให้สามารถวางแผนคอนเทนต์ให้ประสิทธิภาพ และครอบคลุมมากยิ่งขึ้น 

ไม่ว่าจะเป็น การรวบรวมคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง การคัดกรอง และแนะนำคำที่มีการแข่งขันต่ำ ซึ่งเป็นสิ่งที่จะช่วยลดภาระงาน และเพิ่มโอกาสในการติดอันดับสูงขึ้นบน Google ได้

  • การคาดการณ์พฤติกรรมของผู้ใช้บนโลกออนไลน์

อีกข้อดีที่น่าสนใจคือการปรับใช้ AI ในการทำ SEO สามารถช่วยลดขั้นตอนที่ซับซ้อน เช่น การคาดการณ์พฤติกรรมของผู้ใช้บนโลกออนไลน์ ซึ่งเดิมทีต้องใช้เวลามากในการวิเคราะห์ 

แต่ด้วยการเรียนรู้ของ AI จากข้อมูลจำนวนมาก ก็สามารถสร้างโมเดลการคาดการณ์พฤติกรรมได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำขึ้น ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญสามารถปรับปรุงกลยุทธ์ และคอนเทนต์ให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น

  • การสร้างเนื้อหาอัตโนมัติ ช่วยประหยัดเวลา

การนำ AI มาช่วยสร้างเนื้อหา จะช่วยให้เว็บไซต์สามารถผลิตบทความ หรือเนื้อหาจำนวนมากได้ในเวลาอันสั้น โดยไม่ลดทอนคุณภาพของเนื้อหานั้น ๆ ซึ่ง AI ที่เรียนรู้จากคอนเทนต์ และข้อมูลที่มีอยู่ในตลาดสามารถเข้าใจแนวทางการเขียนเนื้อหาที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายได้ เช่น การใช้ภาษาที่เป็นกันเอง หรือการเลือกคำที่ช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าใจง่าย เป็นต้น

  • การปรับแต่งเว็บไซต์ให้เหมาะสม

นอกจากที่กล่าวมา AI ยังสามารถปรับแต่งเว็บไซต์ให้เหมาะสมตามเกณฑ์ของ Google ไม่ว่าจะเป็น การปรับความเร็วเว็บไซต์ การปรับแต่ง Meta Tag หรือการจัดการโครงสร้างลิงก์ภายใน (Internal Links) ให้ดีขึ้น ซึ่งจะช่วยให้การทำ SEO เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น และทำให้เจ้าของเว็บไซต์ไม่ต้องคอยอัปเดตทุกอย่างด้วยตนเองตลอดเวลาอีกด้วย

ส่อง ! ปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อ SEO ในปี 2025 มีอะไรบ้าง ?

SEO

แนวโน้ม SEO ในอนาคตนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นอกจากการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีแล้ว ในปี 2025 ยังมีอีกหลายปัจจัยที่จะมีผลต่อ SEO ดังนี้

  • การเติบโตของ AI และ ML: อัลกอริทึมการค้นหา จะมีความสามารถในการเข้าใจเจตนาของผู้ใช้ เพื่อให้ผลลัพธ์ที่เหมาะสม และแม่นยำยิ่งขึ้น​
  • การค้นหาภาพ และสื่อมัลติมีเดีย: การเพิ่มความสำคัญให้กับเนื้อหาภาพ และวิดีโอเป็นสิ่งสำคัญ โดยควรเพิ่มคำสำคัญในชื่อไฟล์ และคำอธิบายภาพ เพื่อช่วยในการจัดอันดับ
  • การค้นหาที่ไม่ต้องคลิก: มีแนวโน้มที่จะเห็นการค้นหา ที่ไม่ต้องคลิกมากขึ้น ซึ่งผู้ใช้สามารถหาข้อมูลที่ต้องการได้โดยตรงจากหน้าผลลัพธ์การค้นหา (SERP) โดยควรเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเนื้อหาของคุณเพื่อให้ได้เป็น Featured Snippet​
  • การรวมกันของ SEO กับการตลาดดิจิทัลอื่น ๆ: การทำงานร่วมกันระหว่างทีม SEO กับการตลาดออนไลน์ในด้านอื่น ๆ จะมีความสำคัญมากขึ้น เพื่อให้ได้กลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ และครอบคลุม​

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มในอนาคตนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งนักการตลาด และผู้เชี่ยวชาญทุกคน จึงต้องมีการปรับตัวให้เข้ากับแนวโน้มใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น หากคุณต้องการให้เว็บไซต์ยังคงติดอันดับ และเป็นที่รู้จักในโลกออนไลน์ การทำ SEO อย่างยืดหยุ่น และปรับตัวได้จึงเป็นสิ่งจำเป็น 

ทั้งนี้ สำหรับธุรกิจที่ต้องการความยั่งยืนในยุคดิจิทัลนี้ การทำ SEO แบบดั้งเดิมอาจไม่เพียงพอ ดังนั้น หากคุณต้องการให้ธุรกิจของคุณก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง Common Ground เอเจนซี่มืออาชีพที่รับทำ SEO พร้อมเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยพัฒนาเว็บไซต์ของคุณ หากสนใจสามารถติดต่อเราเพื่อรับคำปรึกษา และแนวทางการปรับใช้กลยุทธ์ ที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณได้ที่ 

Tel. 081-426-6695

Email: Enjoy@iamcommonground.com

Facebook Page: Common Ground