อัปเดต วิธีทำ SEO Marketing ให้เว็บไซต์ติดอันดับ ปี 2024

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในปัจจุบันผู้คนหันมาสนใจ และใช้เวลาบนแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น ทำให้ธุรกิจหลายประเภทต่างเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ทางการตลาด เพื่อโปรโมตธุรกิจให้เป็นที่รู้จักต่อกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด อีกทั้งการทำ SEO Marketing ยังช่วยดันเว็บไซต์ให้ติดอันดับการค้นหา และเป็นที่รู้จักของกลุ่มเป้าหมาย

รวมถึงช่วยเพิ่มโอกาสในการตัดสินใจซื้อสินค้า หรือบริการ และเพิ่มยอดขายให้มากขึ้น ซึ่ง SEO เป็นกลยุทธ์การตลาดที่มีกระบวนการเปลี่ยนแปลงจาก Google จะมีการอัปเดตอัลกอริทึมอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญ SEO ได้เข้าใจ และนำไปพัฒนาเว็บไซต์ให้ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายมากที่สุด

ดังนั้น บทความวันนี้ คอมม่อน กราวด์ จึงได้รวบรวมสิ่งที่ Google Algorithm อัปเดตเกี่ยวกับ SEO Marketing มาฝากให้ทุกคนได้ศึกษา และนำไปพัฒนาการทำ SEO ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้นมาติดตามในบทความนี้กันได้เลย 

แนวทางทำ SEO Marketing ให้ติดอันดับการค้นหา (ฉบับอัปเดต)

ถ้าหากพูดถึงเมื่อก่อน SEO มีจุดประสงค์เพียงแค่ให้เว็บไซต์ติดอันดับการค้นหาบน Search Engine แต่ในปัจจุบัน Google Algorithm มีการเปลี่ยนแปลง และพัฒนา SEO อยู่เสมอ เพื่อให้ SEO เป็นไปได้อย่างราบรื่น และมีประสิทธิภาพ

รวมทั้งตอบโจทย์ผู้เข้าชมเว็บไซต์มากที่สุด แต่ในปี 2024 นี้ กระบวนการของ SEO นั้นเปลี่ยนแปลงไป โดยมีการอัปเดตเพื่อให้ SEO มีคุณภาพมากขึ้น ดังนี้ 

• อัปเดต E-A-T Factor เป็น E-E-A-T Factor

E-A-T Factor คือหลักเกณฑ์ หรือปัจจัยที่ Algorithm หรือระบบประมวลผลของ Google Search นำมาใช้ในการพิจารณาคุณภาพของเว็บไซต์ เพื่อจัดอันดับการค้นหา แต่ E-E-A-T Factor คือกฎเกณฑ์ใหม่ล่าสุดที่ Google Algorithm ทำการอัปเดตเพิ่มเติม เพื่อนำมาพิจารณาคุณภาพของเว็บไซต์ โดยประกอบไปด้วย

Expertise (ความเชี่ยวชาญ), Experience (ประสบการณ์), Authoritativeness (ความมีอิทธิพล) และ Trustworthiness (ความน่าเชื่อถือ) โดยกฎเกณฑ์ทั้ง 4 อย่างสำคัญต่อการทำ SEO อย่างมาก เพราะส่งผลต่อการประเมินคุณภาพเว็บไซต์ที่นอกจากจะยึดตามกฎเกณฑ์ทั้ง 4 ข้อข้างต้น ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่มีผลต่อการประเมิน ดังนี้ 

• ปัจจัยที่ 1: เว็บไซต์ต้องมีหน้า “เกี่ยวกับเรา (About Us)” 
• ปัจจัยที่ 2 : ต้องมี Backlink จากการอ้างอิงจากบทความ ข่าวสาร และแหล่งข้อมูลอื่น ๆ ที่น่าเชื่อถือ รวมทั้งมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ของคุณ 
• ปัจจัยที่ 3 : เนื้อหาภายในเว็บไซต์ต้องบ่งบอกได้ว่าผู้เขียนมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และน่าเชื่อถือ 
• ปัจจัยที่ 4 : หน้าเว็บไซต์จะต้องมีประโยชน์ต่อผู้เข้าชม หรือผู้ค้นหา 
• ปัจจัยที่ 5 : เว็บไซต์จะต้องดูน่าเชื่อถือ เป็นที่นิยม และมีอิทธิพลต่อผู้ค้นหา

• เพิ่มความน่าเชื่อถือของบทความ

สิ่งที่ทำให้ Google Algorithm ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ คือการจัดอันดับเนื้อหาที่สร้างอัตโนมัติใน SERPs โดยจะต้องแน่ใจว่าเนื้อหาที่ติดอันดับเป็นเนื้อหา หรือบทความที่ถูกเขียนด้วยคนจริง ๆ ไม่ใช่ AI

ซึ่งวิธีที่จะช่วยยกระดับประสบการณ์ให้กับผู้เขียนบทความ คือการรวบรวมประวัติของผู้เขียนบทความ การสร้างหน้าผู้เขียน การเชื่อมโยงบัญชีโซเชียลมีเดียของผู้เขียน และการอ้างอิงแหล่งที่มา จะช่วยเพิ่มประสบการณ์ให้ Google Algorithm เชื่อถือ และจัดอันดับเว็บไซต์ของคุณได้ 

• เนื้อหาต้องมีประโยชน์ต่อผู้ใช้

การเขียนเนื้อหาที่มีประโยชน์ต่อผู้เข้าชมเว็บไซต์ เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ Google Algorithm ให้ความสำคัญ เพราะเมื่อ Google Algorithm ตรวจสอบแล้วพบว่าเนื้อหาภายในเว็บไซต์ไม่มีประโยชน์ หรือไม่มีความน่าเชื่อถือ ก็จะส่งผลต่ออันดับเว็บไซต์โดยทันที เพราะฉะนั้น การค้นคว้าหาข้อมูลเพื่อนำมาเขียน จะต้องเป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้ และมีแหล่งที่มาอ้างอิงอย่างชัดเจน 

• ใช้เครื่องมือ SEO ให้มากขึ้น

การมีเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มคุณภาพ และมุ่งเน้นไปที่กลยุทธ์มากขึ้น อาทิ Keyword Research Tools, Site auditing and monitoring เป็นต้น

ซึ่งการเพิ่มเครื่องมือเหล่านี้ จะช่วยทำให้เว็บไซต์ของคุณมีประสิทธิภาพ และจับทาง SEO ได้อย่างถูกต้อง ทั้งยังส่งผลต่ออันดับ และ Organic Traffic ของเว็บไซต์อีกด้วย

อ่านเพิ่มเติม รวมเครื่องมือ SEO (SEO Tools) ยอดฮิตที่คนทำ SEO ไม่ควรพลาดคลิก

• การปรับปรุง CTR ให้มีคุณภาพ

CTR (Click through rate) คือ ตัวชี้วัดการคลิกเข้าชมเว็บไซต์ที่ยิ่งมีอัตราการคลิกเยอะแสดงว่าเว็บไซต์มีความน่าสนใจ และเป็นที่นิยมต่อผู้ค้นหา แต่ถ้าอัตราการคลิกน้อยแสดงว่าเว็บไซต์ หรือคอนเทนต์ไม่มีคุณภาพ และไม่เป็นที่น่าสนใจต่อกลุ่มเป้าหมาย

ดังนั้น ต้องตรวจเช็ก CTR ให้ละเอียดว่ามีอัตราการคลิกเข้าชมเป็นอย่างไร ถ้าจำนวนไม่มากจะต้องปรับ Title หรือปรับ Meta Description ให้เหมาะสม มีความเกี่ยวข้องกับเนื้อหาของบทความ และเป็นไปตามที่กลุ่มเป้าหมายต้องการ 

• การวิเคราะห์คู่แข่ง SEO

การวิเคราะห์คู่แข่ง SEO เป็นสิ่งที่ดี และฉลาดที่สุด ถึงแม้ว่าโลกจะมีการเปลี่ยนแปลงไปมากขนาดไหน แต่การวิเคราะห์คู่แข่งยังคงเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ เพราะจะช่วยทำให้เราปรับปรุง และพัฒนาเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งส่งผลต่ออันดับของเว็บไซต์ และจำนวน Organic Traffic 

• เว็บไซต์ที่โหลดเร็ว มีชัยไปกว่าครึ่ง

เนื่องจาก ปี 2021 ที่ Google Algorithm ได้มีการอัปเดตการใช้งานหน้าเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพ และสามารถโหลดหน้าเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อช่วยทำให้เว็บไซต์ถูกจัดอันดับการค้นหาได้ง่ายมากขึ้น และในปีนี้ Google Algorithm ก็ยังคงให้ความสำคัญกับความเร็วในการโหลดหน้าเว็บไซต์

ซึ่งคุณสามารถใช้เครื่องมือ อย่าง Page Speed ​​Insights และ Core Web Vitals ในการตรวจสอบ และประเมินความเร็วของเว็บไซต์ เพื่อปรับปรุงเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพอยู่เสมอ

SEO Marketing Strategy กลยุทธ์ดันเว็บไซต์ ให้ติดอันดับ

SEO หรือ Search Engine Optimization คือ กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพจากการปรับแต่งเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับการทำงานของ Search Engine ทำให้ Search Engine เข้าใจว่าเว็บไซต์ของคุณมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับอะไร และมีเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ต่อผู้เข้าชม รวมถึงการจัดอันดับ หรือการแสดงผลเว็บไซต์ของคุณให้อยู่ในหน้าแรกของหน้าการค้นหา

โดยเป้าหมายหลักของ SEO คือ จะช่วยทำให้เว็บไซต์ปรากฏ และแสดงผลในอันดับแรก หรืออันดับต้น ๆ ของหน้าการค้นหา ซึ่งสิ่งนี้ส่งผลทำให้จำนวน Organic Traffic เพิ่มขึ้นโดยที่ไม่ต้องเสียเงินในการโปรโมตเว็บไซต์ หรือทำการยิง Ads โฆษณาใด ๆ และจะช่วยเพิ่มโอกาสทำให้เว็บไซต์ธุรกิจประสบความสำเร็จมากขึ้นอีกด้วย

อ่านเพิ่มเติม 7 วิธีทำ SEO Google เพื่อเพิ่ม Organic Traffic

กระบวนการทำ SEO Marketing ยังสำคัญต่อธุรกิจอยู่หรือไม่

แม้ในปัจจุบัน Facebook และ Instagram จะเป็นช่องทางออนไลน์ที่มีจำนวนผู้ใช้งานเยอะมากที่สุด อีกทั้งยังมีธุรกิจที่หันไปทำการตลาดในช่องทางเหล่านั้นกันอย่างล้นหลาม แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์ไม่ใช่แพลตฟอร์มที่ไม่สำคัญแต่อย่างใด

เพราะยังมีธุรกิจ และผู้ประกอบการหลายประเภทที่ยังคงทำเว็บไซต์เพื่อโปรโมต และทำการตลาดผ่านช่องทางเหล่านี้กันอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลยุทธ์ SEO ซึ่งเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดออนไลน์ที่มีความสำคัญต่อธุรกิจอย่างมาก

เนื่องจาก เว็บไซต์เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีจำนวนผู้เข้าชมมากที่สุด เพราะเว็บไซต์เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูล และเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ที่มีความน่าเชื่อถือ ทั้งยังเป็นแพลตฟอร์มที่ธุรกิจต้องมีไว้โปรโมตสินค้า และบริการ ให้เป็นที่รู้จักของกลุ่มเป้าหมาย ไปจนถึงช่วยเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจกันนั่นเอง 

ทั้งหมดนี้ก็คือแนวโน้มการทำ SEO ฉบับอัปเดตปี 2024 เพื่อพัฒนาเว็บไซต์ให้มีคุณภาพ และมีประสิทธิภาพต่อผู้เข้าใช้งานอยู่เสมอ เพื่อเชื่อมต่อประสบการณ์ใช้งานของผู้ค้นหา ที่สำคัญ ยังส่งผลดีต่ออันดับบนหน้าการค้นหาบน Search Engine อีกด้วย 

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนไม่มากก็น้อย สำหรับใครที่ต้องการหาผู้เชี่ยวชาญ หรือบริษัทรับทำ SEO ทำการตลาดออนไลน์คุณภาพ สามารถติดต่อ Common Ground SEO Marketing Agency

บริษัทรับทำ SEO และการตลาดออนไลน์ที่มีประสบการณ์ มีความเชี่ยวชาญในการทำการตลาดมานานกว่า 6 ปี ซึ่งจะคอยดูแลธุรกิจ รวมไปถึงทำเว็บไซต์ของคุณให้มีคุณภาพ และมีประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน หากสนใจ และพร้อมให้เราดูแลสามารถติดต่อเพื่อสอบถาม หรือปรึกษาเพิ่มเติมได้ที่

Tel.081-426-6695
Email: [email protected]
Facebook Page: Common Ground