SEO Marketing กลยุทธ์ ดันธุรกิจออนไลน์ให้เติบโต
SEO Marketing คือกระบวนการตลาดออนไลน์ที่ใช้กลยุทธ์ในการปรับแต่ง และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเว็บไซต์ เพื่อให้สินค้าหรือบริการของคุณติดหน้าแรกในการค้นหาของ Google ซึ่งเป็น Search Engine ที่นิยมใช้มากที่สุดในปัจจุบัน
ทั้งนี้ การทำให้เว็บไซต์ให้ติดหน้าแรกในหลักการของ SEO มีเทคนิคที่หลากหลาย ดังนั้น ในบทความนี้ คอมม่อนกราวด์ จะมาแชร์เคล็ดลับการทำ SEO Marketing ที่จะช่วยเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์แบบออร์แกนิก (Organic Traffic) ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย!
เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน
สำรวจประเภทของ SEO Marketing มีกี่รูปแบบ ?
สำหรับกลยุทธ์การทำ SEO Marketing สามารถแบ่งประเภทการทำงานได้อย่างชัดเจนเป็น 3 รูปแบบ ดังต่อไปนี้
- On-Page SEO
On-Page SEO คือ การออกแบบ และปรับแต่งเว็บไซต์ให้มีเนื้อหาที่ถูกต้อง และมีข้อความที่สอดคล้องกับคีย์เวิร์ด ที่ผู้คนมักใช้ค้นหาใน Google ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการติดอันดับในผลการค้นหา
- Off-Page SEO
การทำ SEO Off-Page หรือ การทำ Backlink เป็นหนึ่งในเทคนิคในการทำ SEO โดยใช้ลิงก์จากเว็บอื่น ๆ อ้างอิงมายังเว็บของเรา เพื่อให้ Algorithm Google เห็นถึงความเกี่ยวข้องของเนื้อหา และเพิ่มคะแนนความน่าเชื่อถือ ซึ่งคะแนนความน่าเชื่อถือ เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการจัดอันดับเว็บไซต์ให้ได้อันดับดี ๆ
- Technical SEO
SEO Technical คือการทำ SEO ในเชิงเทคนิคเพื่อปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพเหมาะสมกับการค้นหาของเครื่องมือค้นหา (Search Engine) เพื่อให้ผู้เข้าใช้งานเว็บไซต์ ได้รับประสบการณ์ที่ดี
แนะนำ เครื่องมือในการทำ SEO ที่นักการตลาดต้องรู้
การเลือกใช้เครื่องมือในการทำ SEO ให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ควรให้ความสำคัญ เพราะสิ่งเหล่านี้สามารถช่วยให้คอนเทนต์ SEO บนเว็บไซต์ของเรามีคุณภาพ โดยเครื่องมือในการทำ SEO มีดังนี้
- Keyword Research Tools
Keyword Tools คือ เครื่องมือสำหรับสำรวจ คำค้นหา ที่ผู้ใช้งานใช้สืบค้นบน Search Engine โดยเครื่องมือดังกล่าว จะแสดงข้อมูลต่าง ๆ ได้แก่ Search Volume, Keyword Difficulty, Cost per Click, Paid Difficulty และ Estimated Visits per Month
ทั้งนี้สำหรับเครื่องมือ Keyword Research มีทั้ง แบบฟรีและเสียเงิน โดยที่นิยม เช่น Ahrefs, SEMRush, Google Trend, Google Keyword Planner และ Ubersuggest เป็นต้น
- On-Page Analysis
On-Page Analysis คือ เครื่องมือเพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพหน้าเว็บไซต์ และเป็นเครื่องมือสำหรับข้อมูล Insight ของเว็บไซต์ของคุณเอง และของคู่แข่ง โดยเป็นข้อมูลเชิงลึก โดยเครื่องมือที่นิยมแนะนำเช่น Moz และ Similar Web
- Backlink Tools
สำหรับเครื่องมือสุดในการทำ SEO คือ Backlink Tools เป็นเครื่องเพื่อตรวจสอบคุณภาพของลิงก์ที่เชื่อมโยงมายังเว็บไซต์ของเรา โดยเครื่องมือเพื่อเช็ก Backlink เช่น Neil Patel, Ahrefs และ Google Search Console เป็นต้น
7 เทคนิค SEO Marketing เพิ่มปริมาณ Organic Traffic
SEO Marketing เป็นคำที่เกิดจาก SEO และ Content Marketing รวมกัน ซึ่งเป็นการนำเทคนิค SEO เพื่อสร้างเนื้อหา และปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับแรกในช่องการค้นหา ควบคู่ไปกับการทำ Content Marketing จะช่วยให้เนื้อหาของคอนเทนต์มีความน่าสนใจตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งทั้งสองแนวทางนี้เป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาการตลาดออนไลน์ของธุรกิจในยุคใหม่
สำหรับเป้าหมายหลักของการทำ SEO คือ การเพิ่มโอกาสในการค้นหาบน Google โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในการโฆษณา หรือ Organic Traffic ซึ่งมีเทคนิคที่น่าสนใจ ดังนี้
1. Keyword Research พื้นฐานสำคัญในการสร้างเนื้อหาคุณภาพ
การทำ Keyword Research เป็นสิ่งสำคัญอย่างแรกสำหรับการทำ SEO ให้กับเว็บไซต์ เนื่องจาก Google ได้มีการอัปเดต และเก็บข้อมูลใหม่ ๆ อยู่เสมอ
ดังนั้น การหาคีย์เวิร์ดที่ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย และปรับกลยุทธ์ SEO ให้เหมาะสมกับอัลกอริทึมของ Google จึงสำคัญต่อการเพิ่มปริมาณผู้เข้าชมเว็บไซต์ (Organic Traffic)
2. เขียนหัวข้อให้น่าสนใจ ทำให้คนอยากเข้ามาอ่าน
สำหรับ SEO ชื่อเรื่อง (Title) เป็นจุดแรกที่กลุ่มเป้าหมาย จะเชื่อมต่อกับเนื้อหาของคุณ อย่าง ชื่อบล็อก (Blog) หรือหน้าเว็บไซต์ คุณควรใส่คำหลัก และคำอธิบายหน้าเว็บไซต์สั้น ๆ
ซึ่งในส่วนของชื่อเรื่องนั้นมีข้อควรระวัง คือ Title จะมีความแตกต่างจาก Heading เพราะมีหน้าที่เป็น Tag ให้ Google ได้นำไปใช้การจัดทำดัชนีหน้าเว็บของคุณ
3. ใส่ Keyword ใน Meta Description
Meta Description คือ กล่องข้อความอธิบายภาพรวมเนื้อหาของบทความ โดย Meta Description จะแสดงอยู่บริเวณด้านล่าง Title บนหน้าผลลัพธ์สำหรับเครื่องมือการค้นหา ดังนั้น ควรใส่คีย์เวิร์ด ไว้ในช่วงต้นของข้อความ เนื่องจาก พฤติกรรมของผู้ค้นหาส่วนใหญ่ จะให้ความสำคัญกับข้อความในช่วงแรก
อีกทั้งควรใส่คีย์เวิร์ดไม่เกิน 2 คำ เพื่อทำให้เนื้อหาของ Meta Description ดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งการทำ Mets Description ให้น่าสนใจ จะช่วยดึงดูดให้ผู้ชมตัดสินใจกดคลิกเข้าหน้าเว็บไซต์ของเรามากขึ้น
4. เพิ่ม Internal Link
การทำ Internal Link คือ ลิงก์ที่เชื่อมต่อไปยังหน้าเพจต่าง ๆ บนเว็บไซต์ของคุณ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานอยู่หน้าเว็บไซต์ของเรานานขึ้น จึงเป็นการสร้าง Traffic ภายในเว็บไซต์ให้เชื่อมโยงกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้อัลกอริทึม Google มองว่าเว็บไซต์นั้นมีคุณภาพ และมีความน่าเชื่อถือ อีกทั้งช่วยให้ผู้ใช้งานไม่ต้องเสียเวลาในการค้นหา ถือเป็นการสร้างประสบการณ์ที่ดีต่อผู้ใช้งาน
5. เพิ่ม Quality รูปภาพ
การทำ SEO ไม่ได้มีเนื้อหาบทความเพียงเท่านั้น ยังต้องใช้รูปภาพเสริมในคอนเทนต์ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับบทความบนเว็บไซต์ ซึ่งการแทรกรูปภาพไปในบทความต้องทำการ Optimize หรือปรับรูปภาพดังกล่าวให้มีความเหมาะสม เช่น ขนาดของภาพ ความละเอียด และการแปลงสกุลไฟล์ เป็นต้น
เนื่องจาก รูปภาพส่งผลต่อความเร็วของหน้าเว็บไซต์ ไปจนถึงประสบการณ์ของผู้ใช้ ซึ่งความเร็วของการโหลดหน้าเว็บที่ช้า อัลกอริทึมของ Google จะจัดอันดับที่ไม่ดีให้กับเว็บไซต์ของคุณ อีกทั้งควรเพิ่ม Alt Text หรือคำอธิบายรูปภาพ เพื่อแสดงข้อความแทนในกรณีที่รูปภาพไม่โหลด
6. Mobile Friendly
การปรับปรุงเว็บไซต์ให้เป็นแบบ Mobile Friendly หรือ Responsive Web Design คือ วิธีการออกแบบเว็บไซต์รูปแบบหนึ่ง ซึ่งใช้วิธีปรับขนาด และการจัดวางขององค์ประกอบต่าง ๆ บนเว็บไซต์ ให้แสดงผลบนหน้าจอต่าง ๆ ได้เหมาะสม เช่น โทรศัพท์ แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุด
7. ตรวจเช็กความเร็วของเว็บไซต์
ความเร็วเว็บไซต์ (Page Speed) คือ การตรวจสอบการโหลดหน้าเว็บไซต์ของเรา ว่ามีความเร็วมาก หรือน้อยขนาดไหน ซึ่งขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่องค์ประกอบต่าง ๆ เช่น ข้อความ และรูปภาพบนหน้าเว็บถูกโหลดจนเสร็จสมบูรณ์ หากมีการโหลดที่ผิดพลาด ส่งผลให้ผู้เข้าใช้งานเว็บไซต์ลดลง
สุดท้ายนี้ การทำ SEO Marketing เป็นการลงทุนในระยะยาวที่ต้องใช้ทั้งเวลา ความพยายาม และความอดทน เพื่อให้ธุรกิจของคุณมีปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์ที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งโอกาสสำเร็จของผลประกอบการก็จะดีขึ้นไปด้วย
อ่านบทความเพิ่มเติม ธุรกิจแบบไหนเหมาะกับกลยุทธ์ SEO Marketing
แต่เรื่องเหล่านี้จะง่ายขึ้น หากคุณเลือกใช้บริการ รับทำ SEO ติดหน้าแรก จาก Common Ground Agency บริษัทการตลาดที่พร้อมเครียดแทนคุณ เหมือนยอดขายเป็นของเรา ด้วยประสบการณ์กว่า 7 ปีที่จะคอยดูแลธุรกิจของคุณให้มีคุณภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้บริโภค ติดต่อเราได้ที่
Tel. 081-426-6695
Email: [email protected]
Facebook Page: Common Ground