กลยุทธ์ SEO จุดเริ่มต้นของการปั้นแบรนด์ ให้เติบโตอย่างยั่งยืนSEOกลยุทธ์ SEO จุดเริ่มต้นของการปั้นแบรนด์ ให้เติบโตอย่างยั่งยืน

กลยุทธ์ SEO จุดเริ่มต้นของการปั้นแบรนด์ ให้เติบโตอย่างยั่งยืน

SEO

การทำกลยุทธ์ SEO เป็นสิ่งสำคัญที่ทุกธุรกิจไม่ควรมองข้าม เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าที่มีความต้องการสินค้า และบริการ ผ่านการค้นหาออนไลน์ โดยเฉพาะการค้นหาผ่าน Google ซึ่งเป็นเครื่องมือหลัก ที่คนมักใช้ในการค้นหาข้อมูลของแบรนด์ หรือผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ 

ดังนั้น การเริ่มทำ SEO จะช่วยให้ธุรกิจของคุณปรากฏในผลการค้นหาของผู้ใช้มากขึ้น รวมถึงทำให้มีโอกาสในการเพิ่มยอดขาย และสร้างฐานลูกค้า ให้มั่นคงมากยิ่งขึ้นในอนาคต ในบทความนี้ Common Ground อยากพาคุณมาตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับการทำ SEO อย่างไรให้ปัง เพื่อปั้นธุรกิจของคุณให้เติบโตในระยะยาวกัน

ตอบข้อสงสัย มียอดขายหน้าร้านอยู่แล้ว ทำไมยังต้องมีเว็บไซต์ ?

หากใครที่คิดว่าการมีเว็บไซต์เป็นเรื่องไม่จำเป็น และไม่สำคัญ Common Ground อยากให้คุณลองมาอ่านข้อมูลนี้ก่อน “ในปัจจุบัน คนไทยใช้ Google มากถึง 86.6% เป็นประจำทุกเดือน” โดย “คนไทยกว่า 31.5% นิยมใช้รูปภาพในการเซิร์ชหาข้อมูล”

เมื่ออ้างอิงข้อมูลจาก We Are Social ที่กล่าวมานี้ จะเห็นว่าคนไทยแทบทุกคนมีการใช้ Google Search Engines ในการค้นหาข้อมูล และเกือบ 1 ใน 3 ของประชากร ยังใช้รูปภาพในการเซิร์ชหาข้อมูลอีกเช่นกัน 

ซึ่งทั้งหมดนี้ ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการมีเว็บไซต์ ที่เป็นเครื่องมือสำคัญในการเพิ่มการเข้าถึงลูกค้า และเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนในยุคดิจิทัลนี้

ตอบคำถามยอดฮิต SEO กับ SEM แตกต่างกันอย่างไร

SEO

SEO คือ การทำกลยุทธ์ระยะยาว โดยเน้นการสร้างเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับ Keyword การสร้าง Backlinks และปรับปรุงโครงสร้างเว็บไซต์ให้ดีมีประสิทธิภาพ เพื่อให้มีโอกาสติดอันดับสูงขึ้นในผลการค้นหา

หากเปรียบเทียบ SEO กับการซื้อหุ้น คงเปรียบเสมือนการลงทุน ที่มีผลตอบแทนสูงในระยะยาว และสามารถการันตีผลลัพธ์ได้อย่างแน่นอน โดยไม่ต้องสิ้นเปลืองค่าโฆษณา แม้แต่บาทเดียว ดังนั้น เพียงแค่คุณเริ่มต้นทำ SEO ให้ดี ก็สามารถเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าในระยะยาว และเพิ่มโอกาสในการแปลงผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ ให้เป็นลูกค้าจริงได้มากขึ้นแล้ว

ในทางตรงกันข้าม SEM คือ การทำกลยุทธ์ระยะสั้น ที่เน้นการซื้อโฆษณาในรูปแบบ CPC (Cost Per Click) หรือ PPC (Pay Per Click) ซึ่งจะทำให้โฆษณาของคุณปรากฏทันทีในด้านบนของผลการค้นหา (Paid Search Results) โดยจะให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว และทันใจ แต่ไม่ยั่งยืนเท่ากับการทำ SEO เท่านั้นเอง

SEO มีกี่ประเภท และเลือกทำแบบไหน ถึงจะตอบโจทย์ธุรกิจ !

SEO

เมื่อมีการสร้างเว็บไซต์ขึ้นมาแล้ว การทำ SEO จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม โดย SEO สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลัก ดังนี้

On-Page SEO

เป็นการปรับแต่ง แก้ไข และจัดการเว็บไซต์ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานของ Google เช่น การสร้างเนื้อหาให้มีคุณภาพ การใช้โครงสร้าง URL ที่เหมาะสม และการใส่ Meta tags รวมถึงการเพิ่มความเร็วในการโหลดหน้าเว็บ เป็นต้น เพื่อให้สอดคล้องกับคีเวิร์ดที่เลือกใช้ 

Off-Page SEO

เป็นวิธีการเพิ่มความน่าเชื่อถือ และชื่อเสียงของเว็บไซต์จากภายนอก ซึ่งจะส่งผลต่ออันดับบน Google และโอกาสที่คนจะเจอเว็บไซต์ของธุรกิจคุณโดยตรง ซึ่งวิธียอดนิยมสำหรับการทำ Off-Page คือ การทำ Backlinks, Content Marketing, Reviews และรวมถึงการทำ PBN เป็นต้น

• Technical SEO

เป็นการทำ SEO ที่เน้นการใช้เทคนิคในการจัดการเว็บไซต์ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเนื้อหาในเว็บ เช่น การปรับโครงสร้างของเว็บไซต์ให้เป็นมิตรต่อการค้นหา การตรวจสอบประสิทธิภาพเว็บไซต์ว่าตอบโจทย์ Google และผู้ใช้งานหรือไม่ หรือตัวเว็บมีความปลอดภัยไหม (SSL Certificate) เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าคุณจะเลือกทำ SEO ประเภทไหน ก็ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ และความพร้อมของแต่ละธุรกิจ เนื่องจาก การทำ SEO ไม่ใช่กระบวนการที่จะเห็นผลได้ในทันที แต่เป็นการลงทุนที่ต้องใช้เวลา และความพยายามอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณสามารถติดอันดับสูง ๆ ในผลการค้นหาได้อย่างยั่งยืน

หาคำตอบ จ้างทำ SEO VS ทำด้วยตัวเอง แบบไหนดีกว่ากัน ?

SEO

หลาย ๆ คนอาจยังเลือกไม่ถูกว่าจะจ้างเอเจนซีทำ SEO หรือเริ่มทำด้วยตนเองดี เนื่องจาก การตัดสินใจต้องขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งงบประมาณ ความพร้อม และความเชี่ยวชาญต่าง ๆ ดังนั้น ในหัวข้อนี้ Common Ground จึงรวบรวมข้อดี และข้อเสียของทั้งสองแนวทาง มาช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายยิ่งขึ้นแล้ว ดังนี้

จ้างเอเจนซีทำ SEO 

ข้อดี 

  • มีความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ด้าน SEO โดยตรง 
  • มีความรู้เกี่ยวกับเทคนิคต่าง ๆ ที่สามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ ให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ของธุรกิจ
  • ช่วยประหยัดเวลา เนื่องจากการทำ SEO ต้องใช้เวลา และความพยายามอย่างมาก ดังนั้น การจ้างผู้เชี่ยวชาญจะทำให้คุณสามารถใช้เวลาไปกับการพัฒนาธุรกิจในด้านอื่น ๆ ได้มากขึ้น
  • มีความพร้อมทางเครื่องมือ ที่จำเป็นสำหรับการวิเคราะห์ และปรับปรุงเว็บไซต์
  • ให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว โดยผู้เชี่ยวชาญสามารถเร่งกระบวนการทำ SEO ให้ได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าการทำด้วยตัวเอง

ข้อเสีย 

  • การจ้างอาจมีค่าใช้จ่ายสูง ซึ่งบางครั้งอาจไม่เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก หรือธุรกิจที่มีงบประมาณจำกัด
  • การค้นหาเอเจนซี่ที่เหมาะสมกับธุรกิจอาจทำได้ยาก และต้องใช้เวลา

ทำ SEO ด้วยตัวเอง 

ข้อดี

  • สามารถกำหนด และปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ SEO ได้ตามต้องการ
  • ประหยัดค่าใช้จ่าย
  • สามารถเรียนรู้ และพัฒนาทักษะด้าน SEO ของตนเองให้เพิ่มขึ้น

ข้อเสีย

  • ขาดความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์เฉพาะด้าน อาจทำให้คุณพลาดโอกาสในการใช้เทคนิค และกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพสูง
  • การทำ SEO ต้องใช้เวลา และทรัพยากรอย่างมาก ดังนั้น การทำด้วยตัวเองอาจทำให้เสียเวลามากขึ้นในการศึกษา และทดลอง
  • เห็นผลลัพธ์ช้า เนื่องจาก ขาดความเชี่ยวชาญ และเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ ผลลัพธ์ที่คาดหวังก็อาจไม่รวดเร็วเท่ากับการจ้างผู้เชี่ยวชาญ

สำหรับใครที่อยากเริ่มทำ SEO หรือกำลังหาวิธีเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเว็บไซต์ธุรกิจ ก็สามารถเลือกใช้บริการจาก คอมม่อน กราวด์ เอเจนซี กันได้ เพราะเราคือผู้เชี่ยวชาญด้านรับทำ SEO ที่มีความพร้อมทั้งทางทรัพยากร และเครื่องมือที่ครบครัน ทั้งนี้ หากต้องการปรึกษา หรือสอบถามเพิ่มเติม สามารถติดต่อเราได้ที่

Tel. 081-426-6695

Email: [email protected]

Facebook Page: Common Ground