ถอดความสำเร็จ Marketing Model จากแบรนด์เครื่องดื่มน้ำอัดลม
น้ำอัดลม เป็นเครื่องดื่มที่จัดอยู่ในกลุ่มเครื่องดื่มประเภทซอฟท์ดริงก์ (Soft Drink) โดยไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ในกระบวนการผลิต ซึ่งในการผลิตน้ำอัดลม เกิดจากการผ่านกระบวนการคาร์บอเนตชัน (Carbonation) หรืออัดแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ลงในน้ำหวาน ทำให้เครื่องดื่มมีความซ่า และเมื่อน้ำอัดลมถูกเปิดฝาภาชนะออก ความซ่าจะค่อย ๆ หายไป ทำให้รสชาติ และความสดชื่นลดลงตามลำดับ
สำหรับอุตสาหกรรมน้ำอัดลมในประเทศไทย นับว่าเป็นตลาดผู้ขายน้อยราย โดยมีเพียงสองบริษัทใหญ่ คือโคคา-โคล่า และเป๊ปซี่ ที่ครองส่วนแบ่งการตลาดส่วนใหญ่ แม้จะมีแบรนด์อื่น ๆ เข้ามาแข่งขันในอุตสาหกรรมนี้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็ยังยากที่จะเข้ามาแย่งส่วนแบ่งจากสองแบรนด์หลัก
ดังนั้น เพื่อไขคำตอบทำไมน้ำอัดลมจากทั้งสองแบรนด์ชั้นนำ ถึงครองใจชาวไทยมาอย่างยาวนาน ในบทความนี้ Common Ground ขอพาสำรวจกลยุทธ์การทำ Marketing จากแบรนด์เครื่องดื่มน้ำอัดลมระดับโลก ถ้าพร้อมกันแล้ว ตามไปดูกันได้เลย
เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน
สำรวจ 6 กลยุทธ์ Marketing ในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มน้ำอัดลม
กระแสการดื่มน้ำอัดลม ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเครื่องดื่มชนิดนี้จะไม่มีคุณค่าทางสารอาหาร โดยสิ่งที่มอบให้ได้เพียงความสดชื่นในช่วงเวลาสั้น ๆ
อย่างไรก็ตาม การตลาดในอุตสาหกรรมน้ำอัดลม มีการแข่งขันที่ดุเดือด ซึ่งแต่ละแบรนด์ต้องนำเสนอกลยุทธ์ทางการตลาดที่หลากหลาย และสร้างสรรค์ เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค ให้สามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดให้ได้มากที่สุด สามารถอดบทเรียนความสำเร็จ ได้ดังนี้
- ให้ความสำคัญกับ Brand Positioning
การสร้าง Brand Positioning ของทั้งสองแบรนด์ มีความโดดเด่นอย่างมากในการทำการตลาด ซึ่งแต่ละประเภทแบรนด์ได้ใช้กลยุทธ์ Brand Extension หรือการขยายสินค้าที่ไม่ได้อยู่ในประเภทเดิม และเปลี่ยนชื่อสินค้าใหม่ขึ้น โดยโคคา-โคล่า และเป๊ปซี่ ได้นำกลยุทธ์ดังกล่าว มาปรับใช้กับตลาดน้ำอัดลม สามารถจำแนกออกได้ 3 ประเภท ได้แก่ น้ำดำ น้ำสี และน้ำใส
สำหรับโคคา-โคล่า แบ่งชื่อผลิตภัณฑ์ออกเป็น เช่น Coca-Cola (น้ำดำ), Fanta (น้ำสี) และ Sprite (น้ำใส) ในขณะที่เป๊ปซี่ แบ่งชื่อผลิตภัณฑ์ออกเป็นเช่น Pepsi (น้ำดำ), Miranda (น้ำสี) และ 7Up (น้ำใส) ทั้งหมดนี้ช่วยสร้างภาพจำให้กับแบรนด์ได้เป็นอย่างดี
- ออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่เสมอ
อีกหนึ่งปัจจัย หรือสาเหตุที่โคคา-โคล่า และเป๊ปซี่ สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดได้ยาวนานนั้น มาจากการที่ทั้งสองแบรนด์มีการพัฒนาสินค้า ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค โดยเพิ่มสายการผลิตในผลิตภัณฑ์ให้หลากหลาย และออกรสชาติของเครื่องดื่มใหม่ในทุก ๆ ปี ไม่ว่าจะเป็น การคอลแลบ (Collabs) หรือการออกแบบผลิตภัณฑ์ เพื่อเฉพาะกลุ่มอย่างเช่น โคคา-โคล่า ได้ออกแบบสินค้า Diet Coke เพื่อเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าที่รักสุขภาพ
- ให้ความสำคัญกับพื้นที่สื่อ
ในปัจจุบันเป็นที่ทราบกันดีว่า โคคา-โคล่า และเป๊ปซี่ ไม่ได้ค้าขายน้ำอัดลมเพียงเท่านั้น ซึ่งภายใต้แบรนด์ The Coca-Cola Company ได้เน้นการผลิตเครื่องดื่มหลายรูปแบบ นอกเหนือจากน้ำอัดลม ในขณะที่ PepsiCo ผลิตเครื่องดื่ม และขนมต่าง ๆ เช่น เลย์ ชีโตส และโดริโทส เป็นต้น
จึงส่งผลให้การลงทุนในการโฆษณา ก็มากขึ้นตามมูลค่าของตลาด โดยทั้งสองแบรนด์ มักเป็นผู้นำกระแส หรือยึดโยงสินค้าร่วมร้านค้า และเหตุการณ์ต่าง ๆ เช่น คอนเสิร์ต รายการกีฬา หรือแคมเปญที่มีการตอบโจทย์ในทางสังคม
- ใช้สื่อโซเชียลมีเดียแบบสร้างสรรค์
สำหรับการทำการตลาดที่ขาดไม่ได้เลย คือการใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็น Facebook Tiktok Instagram หรือ X เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมาย Gen Z เนื่องจาก เทรนด์รักสุขภาพที่กำลังมาในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ ทำให้โคคา-โคล่า และเป๊ปซี่มักนำพรีเซนเตอร์ใน Gen Z ที่มีคาแรกเตอร์ตรงตาม Beauty Standard ของคนสุขภาพดี มาเป็นตัวกลางในการสื่อสารแคมเปญต่าง ๆ ของแบรนด์ เช่น นักร้อง นักแสดง หรือนักกีฬา
ทั้งนี้หากเจ้าของแบรนด์ต้องการทำการตลาดออนไลน์ ก็อย่าลืม Common Ground เพราะเราเป็น Digital Marketing Agency ครบวงจร และพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์ผลงานการตลาดให้แบรนด์ของคุณ
- ราคาจับต้องได้
เนื่องจาก น้ำอัดลมอยู่ในธุรกิจที่มีผู้แข่งขันน้อยราย ทำให้การกำหนดราคาขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละแบรนด์เป็นหลัก ทั้งนี้ น้ำอัดลมถือเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ดังนั้น การกำหนดราคาจึงต้องเป็นไปอย่างสมเหตุสมผล ไม่ควรตั้งราคาถูกจนเกินไป เพื่อรักษาภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ โดยแบรนด์น้ำอัดลม มักจะพยายามกำหนดราคาของตนเองให้อยู่ในระดับเดียวกับคู่แข่ง
- รูปแบบการจัดจำหน่าย
การจัดจำหน่ายโดยการออกแบบ Packaging ของโคคา-โคล่า และเป๊ปซี่ สามารถแบ่งออกได้ 3 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ขวดพลาสติก กระป๋อง และขวดแก้ว โดยในแต่ละรูปแบบยังมีขนาดให้เลือกบริโภคแตกต่างกัน ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกที่หลากหลายตามความสะดวก และความต้องการ นอกจากรสชาติของเครื่องดื่มแล้ว ขนาดและประเภทของบรรจุภัณฑ์ยังมีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อน้ำอัดลมอีกด้วย
ถอดเคล็ดลับ Marketing แบรนด์น้ำอัดลม เพื่อเข้าถึงคนทั่วโลก
จุดเด่นของโคคา-โคล่า และเป๊ปซี่ มักมีการปรับกลยุทธ์ทางการตลาด เพื่อปรับตัวตามท้องถิ่นนั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็น วันสำคัญ หรือวัฒนธรรมของแต่ละประเทศ ซึ่งมีตัวอย่าง ดังนี้
- Music Festival
ในประเทศไทย นับเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีเทศกาลดนตรีมากมาย รวมถึงมีศิลปินชื่อดัง มาจัดแสดงคอนเสิร์ตอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่หลายแบรนด์ มักใช้โอกาสนี้ในการโปรโมตสินค้าผ่านการตลาดดนตรี (Music Marketing) และการจัดงานเทศกาลดนตรี (Music Festival)
ในปี 2023 ที่ผ่านมาโคคา-โคล่าได้ร่วมมือกับ Rolling Loud ซึ่งเป็นเทศกาลดนตรีฮิปฮอปจากสหรัฐอเมริกา เพื่อนำมาจัดแสดงในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ในขณะเดียวกัน เป๊ปซี่ก็ได้เป็นพาร์ตเนอร์ในการจัดเทศกาลดนตรี EDM ที่ชื่อ S20 ทำให้ช่วงสงกรานต์ของไทยเต็มไปด้วยความสนุกสนานและสีสันของดนตรีหลากหลายแนว ซึ่งช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยว และคนไทยให้มาร่วมเฉลิมฉลองวันสงกรานต์กันอย่างคึกคัก
- หน้าร้าน Offline ยังสำคัญ
แม้ว่าแบรนด์โคคา-โคล่าและเป๊ปซี่ จะมีชื่อเสียงระดับโลก แต่ทั้งสองยังคงให้ความสำคัญกับการจัดกิจกรรมที่หน้าร้านผ่านการตั้งบูทในงานต่าง ๆ หรือกิจกรรมพิเศษ เช่น มหกรรมกีฬา หรือวันสำคัญต่าง ๆ โดยการออกบูทของทั้งสองแบรนด์มักมีการจัดเต็มด้วยการนำศิลปินชื่อดังมาร่วมแสดง รวมถึงการแจกสินค้าพิเศษและของรางวัลต่าง ๆ เพื่อให้ลูกค้าได้ร่วมสนุก สร้างประสบการณ์ และสร้างความประทับใจแก่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง
เป็นอย่างไรกันบ้าง กับการถอดความสำเร็จ Marketing Model จากแบรนด์เครื่องดื่มน้ำอัดลม ที่ได้นำเสนอในบทความนี้ จะเห็นได้ว่าโคคา-โคล่า และเป๊ปซี่ ได้วางกลยุทธ์การตลาดมาเป็นอย่างดี จึงทำให้เครื่องดื่มครองใจผู้คนจากทั่วโลก
ถึงแม้ในหลายประเทศรวมถึงประเทศไทย จะให้ความสำคัญกับสุขภาพของประชาชน โดยมีการจัดเก็บภาษีความหวานสำหรับสินค้าที่มีส่วนผสมน้ำตาลสูง ซึ่งส่งผลต่อการปรับราคาสินค้า แต่ก็ยังไม่พบว่ามาตรการนี้ส่งผลให้ปริมาณการบริโภคน้ำอัดลมลดลงอย่างชัดเจน
สำหรับใครที่กำลังมองหาที่ปรึกษาการตลาด ที่มีบริการครอบคลุมครบวงจร และการันตีผลลัพธ์ให้คุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขอแนะนำ Common Ground Agency เพราะเราเป็นเอเจนซี่คุณภาพ เพียบพร้อมด้วยประสบการณ์กว่า 7 ปี หากสนใจติดต่อได้ที่
Tel: 081-426-6695
Email: [email protected]
Facebook Page: Common Ground