Influencer VS KOL เลือกแบบไหน ให้ยอดขายพุ่งในพริบตา
การทำการตลาดออนไลน์ในปัจจุบัน หลายแบรนด์มักจะเลือกทำการตลาดออนไลน์ผ่านโซเชียลมีเดีย ด้วยการทำคอนเทนต์สร้างไวรัล เพื่อเป็นการโปรโมตแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักได้ง่าย และรวดเร็ว เพราะสมัยนี้ใคร ๆ ต่างก็เล่นโซเชียลทุกช่วงเวลา เพื่ออัปเดตเทรนด์ใหม่ ๆ ให้ตามทันคนอื่นอยู่เสมอ
แต่อีกหนึ่งกลยุทธ์ทางการตลาด ที่จะช่วยปั้นแบรนด์หน้าใหม่ให้เป็นที่รู้จัก ทั้งในกลุ่มเป้าหมาย และคนทั่วไปที่ชอบไถฟีดเป็นชีวิตจิตใจ คือการทำการตลาดออนไลน์ ผ่านการใช้ Influencer และ KOL เข้ามาช่วยโปรโมตแบรนด์ให้แมสในตลาดมากขึ้น
หากเจ้าของแบรนด์ที่ยังสงสัยว่า การจ้างอินฟลูเอนเซอร์มาช่วยทำการตลาดมีข้อดีอย่างไรบ้าง ในบทความนี้ Common Ground ได้รวมคำตอบที่น่าสนใจมาให้แล้ว รับรองเลยว่าทุกคนจะได้แนวทางในการเลือกจ้าง Influencer และ KOL ที่ตรงจริต มาช่วยเพิ่มยอดขายให้กับแบรนด์ได้อย่างแน่นอน
เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน
เผยความลับ Influencer และ KOL แตกต่างกันอย่างไร
เชื่อว่าหลายคนต่างก็สับสนไม่น้อยว่า Influencer กับ KOL มีความต่างกันอย่างไร ซึ่งจริง ๆ แล้วบริบทของทั้ง 2 สิ่งนี้แทบจะไม่มีความแตกต่างกัน เพราะเป็นการใช้อิทธิพลความมีชื่อเสียงของตัวเอง มาชักจูงกลุ่มเป้าหมายให้สั่งซื้อสินค้าตามคอนเทนต์รีวิว แต่บทบาทของ Influencer และ KOL ต่างก็มีรายละเอียดที่แตกต่างกันอยู่มากมาย ดังนี้
• Influencer
Influencer คือ ผู้มีอิทธิพลบนโลกออนไลน์ ที่มีจำนวนผู้ติดตาม (Followers) ตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักล้าน ทำให้ชักจูงกลุ่มเป้าหมายให้คล้อยตามได้ ผ่านการนำเสนอ Lifestyle หรือคอนเทนต์รีวิวสินค้าที่น่าสนใจ
โดยจุดเด่นของการจ้าง Influencer มาช่วยรีวิวสินค้า และบริการให้กับแบรนด์ คือ เมื่อมีการนำเสนอคอนเทนต์แบบไหนก็ตาม ผู้ติดตามก็จะเกิดความรู้สึกอยากทดลองสินค้า ตามที่อินฟลูเอนเซอร์คนนั้น ๆ ได้ออกมารีวิว จนยอดขายของแบรนด์พุ่งกระฉูดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว
อย่างไรก็ตาม Influencer ไม่ได้มีแค่กลุ่มคนที่มีฐานผู้ติดตามหลักล้านอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีอินฟลูเอนเซอร์อีกหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น
- Nano Influencer: เปรียบเสมือนบุคคลทั่วไป ที่มีอิทธิพลในหมู่คนรู้จัก หรือเพื่อน ๆ รอบข้าง เช่น ดาวโรงเรียน เดือนคณะ และประธานนักเรียน เป็นต้น โดยจะมีผู้ติดตามตั้งแต่ 1,000-10,000 คน
- Micro Influencer: คือ บุคคลที่มีอิทธิพลต่อกลุ่มเป้าหมาย โดยมีผู้ติดตามบนโลกออนไลน์ตั้งแต่ 10,000-50,000 คน จึงเหมาะกับการโปรโมตสินค้า หรือบริการต่าง ๆ ที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์
- Mid-Tier Influencer: ถือเป็นกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ที่มีแนวทาง และฐานผู้ติดตามที่ชัดเจน โดยมีผู้ติดตามตั้งแต่ 50,000-100,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนที่มีความชอบคล้ายคลึงกับอินฟลูเอนเซอร์อยู่แล้ว
- Macro Influencer: เรียกได้ว่าเป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่มีทั้งความเป็นมืออาชีพ ความโดดเด่น ฐานผู้ติดตาม และแนวทางในการทำคอนเทนต์อย่างชัดเจน โดยจะมีผู้ติดตามตั้งแต่ 100,000-1,000,000 คน เหมาะกับแบรนด์ที่ต้องการสร้าง Brand Awareness อย่างยิ่ง
- Mega Influencer: ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นคนที่มีชื่อเสียง ดารา นักกีฬา หรืออินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังที่มีผู้ติดตามมากกว่า 1,000,000 คนขึ้นไป เหมาะกับแบรนด์ที่ต้องการเข้าถึงผู้บริโภคจำนวนมาก และไม่เจาะจงกลุ่มเป้าหมายแค่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
• KOL
นอกจาก Influencer แล้วก็ยังมี KOL (Key Opinion Leader) ซึ่งเป็นผู้นำทางความคิด ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นพิเศษ จนสามารถแนะนำ หรือทำให้ผู้ติดตามรู้สึกคล้อยตาม ส่งผลให้กลุ่มเป้าหมายเกิดความรู้สึกอยากอุดหนุนสินค้า หรือบริการของแบรนด์ที่รีวิว
โดยจะมีความแตกต่างกับ Influencer ตรงที่ KOL เน้นนำเสนอคอนเทนต์ที่เฉพาะเจาะจงกว่า โดยฐานผู้ติดตามอาจไม่เยอะ และไม่ถูกจำกัดแค่บนช่องทางออนไลน์เท่านั้น แต่ต้องเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง และมีความเชี่ยวชาญเฉพาะ รับรองเลยว่าหากให้ KOL เข้ามารีวิวสินค้า ภาพลักษณ์ของแบรนด์จะดูน่าเชื่อถือมากขึ้นอย่างแน่นอน
อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าทุกวันนี้ Influencer และ KOL ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำการตลาดออนไลน์ของหลาย ๆ แบรนด์ เพราะทั้งคู่ต่างก็มีอิทธิพลในการตัดสินใจซื้อของกลุ่มลูกค้า สำหรับใครที่อยากกระตุ้นยอดขายให้ปังขึ้น ด้วยการใช้ KOL แต่ไม่แน่ใจว่าควรเลือกใครดี สามารถปรึกษากับที่ปรึกษาการตลาด Common Ground Agency ได้เลย
วิธีหา KOL และ Influencer ให้คุ้มค่า ตรงตาม Identity ของแบรนด์
เมื่อได้เรียนรู้ความแตกต่างของกลุ่มผู้มีอิทธิพลบนโลกออนไลน์ทั้ง 2 แบบกันไปแล้ว เชื่อว่าเจ้าของแบรนด์คงเริ่มสนใจอยากทำการตลาดแบบ Influencer Marketing เพื่อให้แบรนด์เป็นที่จดจำในโลกออนไลน์มากยิ่งขึ้น จนกลายเป็นแบรนด์ยอดฮิตติดตลาดได้ในระยะเวลาสั้น ๆ
แต่ก่อนที่จะควักกระเป๋าจ่ายเงินจ้าง Influencer และ KOL อย่าลืมว่าการทำการตลาดแบบ Influencer Marketing ไม่ได้เป็นเพียงแค่จ้างใครก็ได้ มาทำคอนเทนต์รีวิวสินค้า และบริการให้กับแบรนด์ของคุณ
ดังนั้น Common Ground จึงได้รวบรวมวิธีเลือก Influencer และ KOL มาให้กับทุกคนแล้ว รับรองเลยว่าไม่เสียเงินฟรี ๆ โดยที่ไม่ได้ประโยชน์อะไรกลับมาอย่างแน่นอน
- ดูความเหมาะสมกับแบรนด์เป็นหลัก
ก่อนที่จะตัดสินใจจ้างอินฟลูเอนเซอร์ ลองพิจารณาให้ดีว่าแบรนด์ของคุณเหมาะกับการทำคอนเทนต์ในรูปแบบไหนบ้าง เพื่อทำการลิสต์รายชื่ออินฟลูเอนเซอร์ ที่มีคาแรกเตอร์ตรงกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ รวมถึงสินค้า หรือบริการที่ต้องการโปรโมต
เพราะหากเลือกจ้างอินฟลูเอนเซอร์ที่ไม่ตอบโจทย์ผลิตภัณฑ์ อาจทำให้คอนเทนต์ที่นำเสนอออกไป หรือไม่สามารถส่งไปถึงกลุ่มลูกค้า ทั้งยังเสี่ยงที่จะถูกมองว่า ทางแบรนด์จงใจจ้างอินฟลูเอนเซอร์ให้โปรโมตสินค้า ไม่ได้รีวิวจากความชอบจริง ๆ
- กำหนดเป้าหมายในการทำคอนเทนต์
ก่อนที่จะทำการตกลงว่าควรเลือกอินฟลูเอนเซอร์คนไหน มาทำคอนเทนต์รีวิวสินค้า เจ้าของแบรนด์ควรทราบก่อนว่าการทำแคมเปญครั้งนี้ ทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์อะไร กลุ่มเป้าหมายคือใครบ้าง และมีวิธีการใดในการเก็บข้อมูล เพื่อให้การลงทุนทำการตลาดออนไลน์ครั้งนี้ ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
เมื่อกำหนดเป้าหมายในการนำเสนอคอนเทนต์ได้แล้ว แนะนำให้ดูฐานผู้ติดตามของอินฟลูเอนเซอร์เพิ่มเติม เพื่อดูว่าผู้ติดตามของ Influencer คนนั้น สามารถกลายมาเป็นกลุ่มเป้าหมายของเราได้หรือไม่ หรือมีแนวโน้มเปลี่ยนใจมาซื้อสินค้า จากการรีวิวหรือเปล่า
- เลือกจากแพลตฟอร์มที่ใช้
อย่างที่ทราบว่า Influencer และ KOL แต่ละคน ต่างก็มีชื่อเสียงบนโซเชียลมีเดียที่แตกต่างกันออกไป บางคนอาจมีแพลตฟอร์มในการโปรโมตหลายช่องทาง หรือบางคนอาจโปรโมตเพียงช่องทางเดียว ดังนั้น ควรศึกษาช่องทางที่ Influencer ใช้โปรโมตคอนเทนต์ ว่าเป็นแพลตฟอร์มที่เจ้าของแบรนด์ต้องการโปรโมตหรือไม่
- คัดเลือกจากคุณภาพงาน
แม้ว่ายอดผู้ติดตาม และ Engagtement ช่วยการันตีได้ว่าสินค้า และบริการของแบรนด์ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแน่นอน แต่ก็อย่าลืมตรวจสอบคุณภาพงานของ Influencer ผ่านช่องคอมเมนต์ เพื่อสังเกตว่าผู้ติดตามส่วนใหญ่ มีแนวโน้มที่จะชอบคอนเทนต์ของอินฟลูเอนเซอร์คนนั้น ๆ จนรู้สึกอยากซื้อสินค้าตามหรือไม่
นอกจากนี้ ควรดูโพสต์อื่น ๆ ด้วยว่าคลิปที่มีสปอนเซอร์ ผลตอบรับเป็นอย่างไร และเคยรับงานรีวิวมาแล้วกี่งาน ซึ่งการสอดส่องคุณภาพงานของ Influencer จะช่วยเพิ่มความมั่นใจได้ว่าสินค้า หรือบริการของแบรนด์ สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้จริง
อย่างไรก็ตาม การทำ Influencer Marketing เพื่อให้สินค้า หรือบริการของแบรนด์เป็นที่รู้จักในวงกว้าง อาจไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน ดังนั้น เจ้าของแบรนด์ควรที่จะเลือก Influencer และ KOL แบบพิถีพิถัน เพื่อให้ตรงกับความต้องการของแบรนด์ และกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด
สำหรับผู้ที่ต้องการโปรโมตสินค้า ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่าย ผ่านวิธีการใช้ Influencer และ KOL เข้ามาช่วยทำคอนเทนต์รีวิวสินค้า และบริการ ก็สามารถติดต่อ Common Ground Agency ที่ปรึกษาการตลาด ที่เชี่ยวชาญด้านการทำการตลาดทุกรูปแบบ รับรองว่าสินค้าของคุณจะถูกโปรโมตตรงกับกลุ่มเป้าหมายอย่างแน่นอน หากสนใจสามารถติดต่อได้ที่
Tel: 081-426-6695
Email: [email protected]
Facebook Page: Common Ground