รู้จัก CPAS ฟีเจอร์ยิงแอดยุคใหม่ โดนใจธุรกิจ E-CommerceAdsรู้จัก CPAS ฟีเจอร์ยิงแอดยุคใหม่ โดนใจธุรกิจ E-Commerce

รู้จัก CPAS ฟีเจอร์ยิงแอดยุคใหม่ โดนใจธุรกิจ E-Commerce

ยิงแอด

ในปัจจุบัน เจ้าของธุรกิจจำนวนมาก เริ่มหันมาขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์ม E-Commerce มากขึ้น เพื่อรองรับพฤติกรรมของลูกค้าที่นิยมซื้อสินค้าออนไลน์สูงขึ้น ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ ทำให้แพลตฟอร์ม E-Commerce ต่าง ๆ จำเป็นต้องพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ ๆ เพื่อสนับสนุนการขายสินค้าของแบรนด์ที่ใช้บริการ และช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขายให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจมากยิ่งขึ้น หนึ่งในฟีเจอร์สำคัญที่ถูกพัฒนาขึ้นคือฟีเจอร์การยิงแอดเรียกว่า “CPAS”

ดังนั้น ในบทความนี้ Common Ground จะขอพาทำความรู้จัก CPAS คืออะไร และมีประโยชน์ต่อการทำธุรกิจ E- Commerce อย่างไรบ้าง ถ้าพร้อมกันแล้ว ตามไปดูกัน

CPAS คืออะไร ? ฟีเจอร์ยิงแอดยอดนิยมของ Meta

ยิงแอด

CPAS (Collaborative Performance Advertising Solution) คือรูปแบบการทำโฆษณาร่วมกันระหว่าง Meta กับแพลตฟอร์ม E-Commerce อย่าง Shopee,  JD Central หรือ Lazada ที่ช่วยธุรกิจโปรโมตสินค้า และสร้างยอดขายให้กับธุรกิจให้ดีขึ้น

เนื่องจาก การโฆษณาในรูปแบบนี้ จะช่วยดึงดูดกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสม โดยแสดงโฆษณาที่ปรับเปลี่ยนตามพฤติกรรม และความสนใจของผู้ใช้งานแต่ละคน นอกจากนี้ การยิงโฆษณาด้วยฟีเจอร์ CPAS ยังมีประโยชน์อีกมาก ได้แก่

  1. ลดต้นทุนในการโฆษณา

การทำงานของ CPAS ธุรกิจสามารถเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าเป้าหมาย สร้างยอดผู้เข้าชม (Traffic) และกระตุ้นการตัดสินใจซื้อสินค้าได้อย่างแม่นยำ ทั้งยังช่วยลดต้นทุนในการโฆษณา ด้วยการแสดงผลให้กับผู้ที่มีแนวโน้มสนใจสินค้าจริง ๆ อีกด้วย  

  1. เข้าถึงหลายแพลตฟอร์ม

รูปแบบการยิงโฆษณานี้ เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการเพิ่มยอดขายออนไลน์และแข่งขันในตลาดที่มีความหลากหลายของผู้ใช้งาน เช่น ตลาด E-Commerce ที่เติบโตอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ทำให้การใช้ Collaborative Ads มาช่วย สามารถเพิ่ม Awareness ได้เป็นอย่างดี 

เนื่องจาก แพลตฟอร์มของ Meta เช่น Facebook และ Instagram มีผู้ใช้งานจำนวนมาก ทำให้ความสามารถในการดึงดูดผู้ใช้งานที่เกี่ยวข้องมายังร้านค้าออนไลน์ของคุณได้ง่าย

  1. เพิ่มประสิทธิภาพ Retargeting

การทำโฆษณาในรูปแบบ CPAS สามารถเจาะจงกลุ่มเป้าหมาย ที่มีแนวโน้มจะเป็นกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ โดยสามารถเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้งาน เช่น การซื้อ ความสนใจ และประวัติการเข้าชมบนแพลตฟอร์ม E-Commerce ทำให้แบรนด์กำหนดการยิงโฆษณา ที่สอดคล้องกับพฤติกรรมดังกล่าว 

ไม่ว่าจะเป็น การยิงโฆษณาไปยังกลุ่มลูกค้า ที่เคยเข้ามาดูสินค้าแต่ไม่ได้กดซื้อ หรือกลุ่มลูกค้าที่เพิ่มสินค้าใส่ตะกร้า แต่ยังไม่ได้กดซื้อ ซึ่งการทำ Collaborative Ads เปรียบเสมือนการเพิ่มโอกาสในการปิดการขายมากขึ้น จากการแสดงสินค้าซ้ำไปยังกลุ่มเป้าหมาย

  1. ติดตามผลลัพธ์ได้ในเชิงลึก

สำหรับการทำ CPAS ไม่เพียงสามารถวัดผลเชิงลึกเกี่ยวกับการใช้งานของผู้ใช้งานเท่านั้น แต่ยังสามารถวัดผล ROAS (Return on Ad Spend) เพื่อประเมินถึงการจ่ายค่าโฆษณานั้น มีความคุ้มค่ากับผลตอบแทนหรือไม่ ? ซึ่งค่าวัดผลดังกล่าว ทำให้เจ้าของธุรกิจ หรือผู้ประกอบการ สามารถนำค่าดังกล่าวมาวิเคราะห์ เพื่อหาแนวทางปรับปรุงการโฆษณาในครั้งถัดไป

หากต้องรับคำปรึกษาเกี่ยวกับกลยุทธ์การยิงโฆษณา CPAS ขอแนะนำ Common Ground เอเจนซีรับยิงแอด จะช่วยคุณสร้างแคมเปญที่ตอบโจทย์ และเข้าถึงลูกค้าเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ เพิ่มยอดขาย และเติบโตอย่างยั่งยืนในโลกออนไลน์ได้ทันที

ไขข้อสงสัย การยิงโฆษณารูปแบบ CPAS เหมาะกับธุรกิจแบบไหนบ้าง

ยิงแอด

แม้ว่าการทำโฆษณา CPAS (Collaborative Ads) จะช่วยเพิ่มยอดขายให้กับแบรนด์ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกธุรกิจบน E-Commerce จะสามารถใช้เครื่องมือนี้แล้วได้ผลลัพธ์เชิงบวกเสมอไป ดังนั้น เราจะพาคุณมาสำรวจว่า ธุรกิจรูปแบบไหน ที่เหมาะสมกับการยิงแอด CPAS เพื่อให้การลงทุนคุ้มค่าด้านโฆษณาสูงสุด ดังนี้

  • มีฐานลูกค้าที่ชัดเจน 

ธุรกิจที่เหมาะกับการใช้โฆษณา CPAS ควรมีฐานข้อมูลลูกค้าที่ชัดเจน เช่น กลุ่มเป้าหมายที่มีพฤติกรรมการซื้อสินค้า ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ หรือกลุ่มที่เคยแสดงความสนใจในสินค้า และบริการของแบรนด์มาก่อน โดยฐานลูกค้าเหล่านี้ จะช่วยให้การยิงโฆษณาแม่นยำ และได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น

  • ต้องการเพิ่มยอดการขาย

หากธุรกิจของคุณตั้งเป้าหมาย ที่จะกระตุ้นยอดขายอย่างจริงจัง การโฆษณา CPAS สามารถช่วยผลักดันยอดขายได้โดยตรง โดยเฉพาะสำหรับสินค้าหรือบริการที่ได้รับความนิยมอยู่แล้วในตลาด

อัปเดต วิธีการยิงแอดแบบ CPAS ที่นักการตลาดมือใหม่ควรรู้ !

ยิงแอด

การทำโฆษณาแบบ CPAS จำเป็นต้องใช้แพลตฟอร์ม E-Commerce ที่เป็นพาร์ตเนอร์กับ Meta ถึงจะสามารถใช้งานฟังก์ชันยิงโฆษณานี้ได้ รวมถึงธุรกิจต้องมีความน่าเชื่อถือ และไม่ขัดต่อนโยบายของ Meta จึงสามารถทำการเริ่มต้นสร้างรูปแบบโฆษณา CPAS บนแพลตฟอร์ม Facebook ซึ่งสำหรับการทำ Collaborative Ads  มีขั้นตอนการทำ ดังนี้

1. ตั้งค่าเริ่มต้นใน Meta Business Suite

เริ่มต้นให้ทำการเปิดบัญชี Meta Business Suite พร้อมกับตั้งค่ารายละเอียดข้อมูลของบริษัทให้ครบถ้วน เช่น ที่อยู่ ลิงก์เว็บไซต์ อีเมล หรือชื่อบัญชี ซึ่งควรตั้งชื่อตั้งเพจ Facebook เป็นชื่อเดียวกับร้านค้าบนอีคอมเมิร์ซ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้ร้านค้า นอกจากนี้ จำเป็นต้องตั้งค่าสิทธิการเข้าถึงทุกอย่าง ระหว่างแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซกับ Facebook ให้เชื่อมโยงถึงกัน

2. เชื่อมต่อแค็ตตาล็อก

เมื่อสามารถตั้งค่า Business Manager เสร็จเรียบร้อย ให้ทำการเชื่อมต่อบัญชีอีคอมเมิร์ซกับ Facebook โดยในกรณีของแพลตฟอร์ม Shopee แค็ตตาล็อกจะทำการเชื่อมต่อไปยัง Facebook อัตโนมัติ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง ทั้งนี้เงื่อนไขต่าง ๆ และระยะเวลาการอนุมัติ จะเป็นไปตามที่แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซกำหนด 

อย่างไรก็ตาม โปรดหลีกเลี่ยงการโปรโมตสินค้า ที่ไม่เป็นไปตามนโยบายของ Meta เช่น อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ เครื่องสำอางใช้แล้ว เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ใหญ่ และการพนัน เป็นต้น

3. ตั้งค่าการโฆษณาแบบ CPAS

หลังจากได้รับแค็ตตาล็อกสินค้าจาก E-Commerce ให้เตรียมสื่อสำหรับการโฆษณา เช่น รูปภาพ วิดีโอ ข้อความอธิบายโฆษณา จากนั้นให้ตั้งค่า Campaign Objective ในการสร้างแคมเปญโฆษณา ไม่ว่าจะเป็น การกำหนดกลุ่มเป้าหมาย งบประมาณ และรายละเอียดอื่น ๆ 

เมื่อตรวจสอบ และตั้งค่าทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ให้กดเผยแพร่โฆษณา จากนั้นสามารถติดตามผลลัพธ์การยิงแอดได้ผ่านเครื่องมือวิเคราะห์ เพื่อปรับปรุง และเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญในอนาคต

สุดท้ายนี้ ผู้ประกอบการท่านใดที่สนใจการทำ CPAS เพื่อเพิ่มยอดขายให้แบรนด์ แต่ยังไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ทาง Common Ground เป็นเอเจนซีรับยิงแอดที่มีความเชี่ยวชาญ พร้อมวางแผนการตลาดออนไลน์ได้แบบครบวงจร หากสนใจสามารถติดต่อหาเราได้ที่

Tel: 081-426-6695

Email: Enjoy@iamcommonground.com

Facebook Page: Common Ground