ทริคเริ่มต้นการตลาดออนไลน์ ด้วย Email Marketing สำหรับมือใหม่

Email Marketing เป็นเครื่องมือทางการตลาด ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการส่งอีเมลโดยตรง ยิ่งในยุคที่การแข่งขันบนโลกออนไลน์สูงขึ้น การเลือกใช้ช่องทางการตลาดออนไลน์ในรูปแบบนี้ จึงเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สามารถสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า และกระตุ้นยอดขายได้อย่างเป็นอย่างดี

ดังนั้น เพื่อเป็นแนวทางให้กับผู้ที่สนใจทำ ในบทความนี้ Common Ground ขอแชร์เคล็ดลับทำ Email Marketing เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างยอดขายให้ได้มากยิ่งขึ้น ถ้าพร้อมกันแล้ว ตามไปดูกัน 

Email Marketing คืออะไร ?

Email Marketing คือ การใช้อีเมล เป็นเครื่องมือทางธุรกิจในการสื่อสารกับลูกค้า โดยส่งข้อความสำคัญไปยังผู้รับจำนวนมากพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นการโปรโมตสินค้าและบริการ หรือการส่งข่าวประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ 

ทั้งนี้ การทำการตลาดผ่านวิธีส่งอีเมล ไม่เพียงช่วยให้ลูกค้าได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ แต่ยังเป็นกลยุทธ์สำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ และกระตุ้นยอดขายให้กับแบรนด์ได้เป็นอย่างดี

อัปเดต ขั้นตอนการทำการตลาดออนไลน์ Email Marketing ในปี 2025

หลายคนอาจมองว่าการใช้อีเมลเป็นช่องทางที่ล้าสมัย แต่ในความเป็นจริง อีเมลยังคงเป็นหนึ่งในวิธีการสื่อสารที่มีความน่าเชื่อถือ และเป็นที่นิยม เนื่องจาก ผู้คนส่วนใหญ่ยังคงใช้งานอีเมลในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็น การทำงาน การสมัครบริการออนไลน์ หรือการรับข่าวสารต่าง ๆ

เพราะฉะนั้น ใครที่กำลังสนใจการทำ Online Marketing ในรูปแบบ Email Marketing นี่คือขั้นตอนสำคัญในการดำเนินกลยุทธ์ ดังนี้

1. วางแผนการใช้กลยุทธ์

พื้นฐานสำคัญในการทำ Online Marketing คือ การวางแผนอย่างแน่ชัด เพื่อกำหนดทิศทางของการทำ Email Marketing ให้เหมาะกับวัตถุประสงค์ของธุรกิจ โดยสามารถเลือกประเภทของอีเมลตามการใช้งาน ซึ่งแบ่งออกเป็น 6 ประเภท ได้แก่

• Announcement Email: อีเมลแจ้งข่าวสาร หรือประกาศสำคัญ 
• Greeting Email: อีเมลเพื่อทักทาย หรือแสดงความขอบคุณ
• Reward Email: อีเมลแจ้งสิทธิพิเศษ หรือรางวัลสำหรับลูกค้า
• Promotion Email: อีเมลส่งเสริมการขายผ่านการมอบดีลพิเศษ
• Invitation Email: อีเมลเชิญชวนเข้าร่วมกิจกรรม
• Survey Email: อีเมลสำรวจความคิดเห็น เพื่อรวบรวมข้อมูล หรือข้อเสนอแนะจากลูกค้า

2. สร้างรายชื่อที่ต้องการรับอีเมล

ในขั้นตอนถัดมาของการทำ Email Marketing คือ การรวบรวมรายชื่อผู้รับ Email ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ธุรกิจต้องการสื่อสารด้วย โดยควรมีการจัดหมวดหมู่ตามประเภทของอีเมลที่ต้องการส่ง เพื่อให้สามารถนำเสนอเนื้อหาที่ตรงกับความสนใจของแต่ละกลุ่ม 

ทั้งนี้ การรวบรวมรายชื่อสามารถทำผ่านการกำหนด Call to Action (CTA) เพื่อเป็นจุดเชื่อมโยง ที่กระตุ้นให้ผู้ใช้งานอีเมลสมัครรับอีเมล ตัวอย่างเช่น สมัครรับข่าวสาร ลงทะเบียนเพื่อรับโปรโมชัน เข้าร่วมกิจกรรม หรือทำแบบสอบถาม เป็นต้น

3. สร้างเนื้อหาคอนเทนต์

ถัดมาเป็นขั้นตอนของ การสร้างเนื้อหาคอนเทนต์ ซึ่งเริ่มต้นจาก การตั้งหัวข้ออีเมลให้น่าสนใจ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเปิดอีเมล โดยเนื้อหาภายในอีเมล ควรกระชับและตรงประเด็น ไม่ว่าจะเป็น ข้อความ หรือรูปภาพ ควรได้รับการออกแบบให้สื่อสารได้อย่างตรงจุด 

นอกจากนี้ การจัด Layout ของอีเมล ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการตลาดออนไลน์อีเมลมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยควรออกแบบให้เป็นมิตรต่อการใช้งานบนสมาร์ตโฟน (Mobile-Friendly) เช่น จัดวางองค์ประกอบไม่รก ฟอนต์ที่อ่านง่าย และมีปุ่ม CTA ที่ชัดเจน เป็นต้น

หากคุณต้องการผู้ช่วยการทำคอนเทนต์ ขอแนะนำ Common Ground ที่ปรึกษาการตลาด ซึ่งเชี่ยวชาญในการทำการตลาดทุกรูปแบบ เพื่อช่วยให้ธุรกิจของคุณ ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว พร้อมมัดใจกลุ่มเป้าหมายหลายประเภท 

4. ทดสอบก่อนการส่งจริง

ก่อนส่งอีเมล ควรตรวจสอบความเรียบร้อย และความสมบูรณ์ของอีเมล โดยทดสอบการแสดงผลบนอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้แน่ใจว่าอีเมลสามารถอ่านได้ชัดเจน และแสดงผลได้อย่างถูกต้องในทุกแพลตฟอร์ม เมื่อตรวจสอบจนมั่นใจแล้ว จึงส่งอีเมลออกไป 

5. วิเคราะห์ผลลัพธ์

หลังจากส่งอีเมลออกไปแล้ว ควรทำการวิเคราะห์ผลลัพธ์ และประสิทธิภาพของ Email Marketing เพื่อตรวจสอบว่าแคมเปญ ที่ดำเนินไปนั้นได้ผลดีเพียงใด ควรพิจารณาอัตราการเปิดอ่าน (Open Rate) เพื่อตรวจสอบว่าผู้รับให้ความสนใจกับอีเมลมากน้อยแค่ไหน 

รวมถึง อัตราการคลิก (Click-Through Rate – CTR) เพื่อติดตามว่าผู้รับมีส่วนร่วมกับเนื้อหา และ Call to Action (CTA) ภายในอีเมลหรือไม่ เมื่อตรวจสอบผลลัพธ์เรียบร้อยแล้ว ให้นำข้อมูลที่ได้รับมาปรับปรุง กลยุทธ์การทำ Email Marketing ในครั้งถัดไป 

เผยข้อดีของ Email Marketing เครื่องมือการตลาดออนไลน์ที่สำคัญ

การทำ Online Marketing รูปแบบ Email Marketing มีประโยชน์อย่างมากในการช่วยธุรกิจ โดยข้อดีของการใช้ช่องทางนี้มีหลายประการ ดังนี้

• ต้นทุนต่ำ

การทำ Email Marketing มีต้นทุนที่ต่ำ เมื่อเทียบกับการทำ Online Marketing ผ่านช่องทางอื่น ๆ แต่กลับคุ้มค่าในการสร้างผลลัพธ์ที่ดี เนื่องจาก สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด โดยไม่ต้องใช้งบประมาณสูง ดังนั้น Email Marketing จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม สำหรับธุรกิจที่ต้องการขับเคลื่อนการตลาดในยุคดิจิทัล โดยใช้งบประมาณที่จำกัด 

• เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรง

การทำการตลาดด้วยการส่งอีเมล ช่วยให้ธุรกิจสามารถส่งข้อความไปยังลูกค้าเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ และตรงจุดอย่างแน่นอน เพราะรายชื่อข้อมูลที่ใช้ในการส่งอีเมลนั้น ได้รับการรวบรวมมาจากลูกค้าโดยตรง ซึ่งช่วยให้การสื่อสารมีความเฉพาะเจาะจง และตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย

• กระตุ้นการตัดสินใจซื้อ

การนำเสนอข้อเสนอพิเศษ หรือโปรโมชันผ่านอีเมล เป็นการทำ Online Marketing ที่สามารถช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ เพราะในบางครั้งลูกค้าบางคนอาจไม่ชอบเล่นโซเชียลมีเดีย ทำให้พลาดโอกาสในการซื้อสินค้าบางอย่าง ที่หลายแบรนด์มักโปรโมตเฉพาะแพลตฟอร์มออนไลน์ ดังนั้น การส่งอีเมล จึงถือเป็นช่องทางช่วยให้ลูกค้าได้รับข้อมูลสำคัญ และข้อเสนอพิเศษได้โดยตรง ทำให้เพิ่มโอกาสในการขายมากยิ่งขึ้น

• สร้าง Brand Loyalty

การส่งอีเมลอย่างสม่ำเสมอ ช่วยสร้างความเชื่อมั่น และความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแบรนด์กับลูกค้า ซึ่งจะทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงการใส่ใจ และได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ แต่ทั้งนี้ ควรระวังการส่งอีเมลที่มากเกินไป เพราะอาจทำให้ลูกค้ารำคาญ จนนำไปสู่การยกเลิกการรับอีเมล (UnSubscribe)

• วัดผลได้อย่างแม่นยำ

Email Marketing เป็นกลยุทธ์ที่สามารถวัดผลได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำ เพราะสามารถวัดได้จากอัตราการเปิดอ่านอีเมล อัตราการคลิก หรือยอดขายสินค้าในช่วงเวลาที่ทำการส่งอีเมล นอกจากนี้ ยังสามารถวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านี้เพื่อปรับปรุงกลยุทธ์ และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำ Online Marketing ในอนาคต

แชร์ตัวอย่างที่ดี ของการทำ Email Marketing จากแบรนด์ชั้นนำ

ในปัจจุบัน Email Marketing ยังคงเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในการทำการตลาดออนไลน์ สามารถสังเกตได้จากการใช้งานของแบรนด์ชั้นนำระดับโลกที่นำกลยุทธ์นี้มาใช้เพื่อสื่อสารกับลูกค้า ดังนั้น เพื่อให้เห็นการใช้งานที่ชัดเจนยิ่งขึ้น เราจะมาแนะนำการทำ Email Marketing ผ่านตัวอย่างจากแบรนด์ระดับโลก ดังนี้

1. Samsung

เริ่มต้นกันที่แบรนด์ Samsung ซึ่งเป็นหนึ่งในแบรนด์เทคโนโลยีที่โดดเด่นในการนำเสนอสินค้าและบริการผ่านอีเมล โดยใช้กลยุทธ์ดังกล่าวในการโปรโมตผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นการแนะนำสินค้าเปิดตัวใหม่ การให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการใช้งานนวัตกรรมล่าสุด หรือส่งโค้ดส่วนลด เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ

ซึ่งจุดเด่นในการโฆษณา Samsung คือ การนำเสนอรูปภาพของผลิตภัณฑ์ในหลายมุมมอง และสวยงาม พร้อมกับ CTA (Call-to-Action) ที่เรียบง่าย แต่ชัดเจน เช่น “สมัครเลย”, “ลงทะเบียน” หรือ “ช็อปเลย” เป็นต้น

2. Adidas

ถัดมาคือแบรนด์ Adidas ซึ่งเป็นบริษัทผู้จัดจำหน่ายเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับกีฬา แต่หลายคนมักคุ้นเคยกับแบรนด์ในฐานะผู้ผลิตรองเท้าชั้นนำ ซึ่ง Adidas ใช้กลยุทธ์ Email Marketing เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าและโปรโมชันตามฤดูกาล เช่น การเปิดตัวคอลเลกชันใหม่ หรือแคมเปญลดราคาพิเศษ 

โดยเนื้อหาภายในอีเมล จะเน้นการกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อทันที ตัวอย่างเช่น “พบกับสไตล์ใหม่ รับส่วนลดสูงสุด 50%” หรือ “ซื้อสินค้า 2 ชิ้น รับส่วนลดเพิ่ม 30%” อีกทั้งอีเมลของ Adidas มักมีลิงก์ที่พาผู้รับไปยังหน้าสินค้าโดยตรง เพื่อเพิ่มโอกาสในการปิดการขายอย่างรวดเร็ว

3. Adobe

Adobe เป็นแบรนด์ชั้นนำด้านซอฟต์แวร์สำหรับการสร้างสรรค์งานศิลปะและออกแบบดิจิทัล หนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นที่สุดคือ Adobe Photoshop โปรแกรมสำหรับสร้างและแก้ไขรูปภาพที่ได้รับความนิยมทั่วโลก 

สำหรับ การใช้กลยุทธ์ Email Marketing ของ Adobe ในการขายโปรแกรม Photoshop จะเน้นการนำเสนอฟีเจอร์ภายในโปรแกรม เพื่อให้ผู้ใช้เห็นถึงศักยภาพ และความสามารถของซอฟต์แวร์ พร้อมด้วย CTA เช่น “ลองเลย” หรือ “เริ่มต้นใช้งาน” ซึ่งจะลิงก์ไปยังหน้าซื้อผลิตภัณฑ์โดยทันที

สุดท้ายนี้ หวังว่าบทความ “ทริคเริ่มต้นทำการตลาดออนไลน์ด้วย Email Marketing สำหรับมือใหม่” จะเป็นประโยชน์ และช่วยให้คุณสามารถนำข้อมูลไปต่อยอด ในการพัฒนากลยุทธ์การตลาดของคุณ เพื่อเพิ่มยอดขาย และทำให้ธุรกิจของคุณเติบโตในระยะยาว

และที่สำคัญ หากใครต้องการที่ปรึกษาการตลาด ก็อย่าลืม Common Ground เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญ เกี่ยวกับการทำ Online Marketing ทุกรูปแบบ หากสนใจสามารถติดต่อเราได้ที่

Tel: 081-426-6695

Email: Enjoy@iamcommonground.com

Facebook Page: Common Ground